โรคเก๊าซ์ (Goat) เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมกรดยูริกในร่างกาย ที่ส่วนใหญ่ก็จะเกิดขึ้นในข้อต่อ เช่น ข้อเข่า ข้อศอก หรือข้อนิ้วมือ โรคเก๊าซ์เป็นผลมาจากการสะสมของผลต่อการขับถ่ายของกรดยูริก ซึ่งเป็นผลต่อการย่อยและการหมุนเวียนของสารพิษในเลือด อาการของโรคเก๊าซ์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
แต่มักเป็นไปได้มากในช่วงที่มีการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีปริมาณกรดยูริกสูง อาการสำคัญที่พบได้ก็คือการอักเสบและอักเสบระยะเรื้อรังในข้อต่อ ทำให้เกิดอาการบวม แดง ร้อน และเจ็บปวดรอบข้อ
การวินิจฉัยโรคเก๊าซ์จะใช้การตรวจระดับกรดยูริกในเลือด และอาจใช้การตรวจระยะทางที่เป็นอาการเป็นเส้นเลือดหรือการตรวจภาพด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อการตรวจสอบการที่ช่วยในการตรวจจับการพัฒนาของโรคหรืออาการของโรคเก๊าซ์
การรักษาโรคเก๊าซ์มุ่งเน้นที่การจัดการอาการอักเสบของข้อต่อ ลดอาการปวด และลดความเสียหายของข้อต่อในระยะยาว รูปแบบการรักษาสามารถแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอนดังนี้
- การควบคุมอาหารและเครื่องดื่ม: การลดปริมาณอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีปริมาณกรดยูริกสูง เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล อาหารหมักเค็ม และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อลดการสะสมกรดยูริกในร่างกาย
- การใช้ยา: มีการใช้ยาต่าง ๆ เพื่อลดอาการอักเสบ และลดความเสียหายของข้อต่อ ยาที่พบบ่อยรวมถึง:
– ยาลดการสะสมกรดยูริก: เช่น อะลโลพูรินอล, ฟีโบรูเสต
– ยาต้านการอักเสบ: เช่น ไอบูพรีเนน, นาพโรคซิน
– ยาต้านประสาท: เช่น โครติโกสเตอรอยด์, ปริวาสติโกสเตอรอยด์
- การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดูแลสุขภาพ: การดูแลเพื่อสุขภาพที่ดีทั่วไป เช่น การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม, การควบคุมน้ำหนัก, การหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดการสะสมกรดยูริก เป็นต้น
- การรักษาอาการโรคหรือภาวะแทรกซ้อน: เช่น การรักษาอาการที่เกิดขึ้นจากการสะสมกรดยูริก เช่น ก้อนทรายไต, การอักเสบของผิวหนัง, หรืออาการที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
- การควบคุมภาวะแทรกซ้อน: เช่น การตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อตรวจสอบภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น โรคหัวใจ, ไต, หรือเบาหวาน
อาหารที่คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเก๊าซ์ (กล้ามเนื้อหรือการย่อยอาหาร) บางประการอาจควรหลีกเลี่ยงหรือลดการบริโภค เช่น
- อาหารที่เป็นแก๊ส: เช่น ถั่ว ถั่วลิสง ถั่วเขียว แตงกวา และกะหล่ำปลี
- อาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรต: เช่น ข้าว พาสต้า ขนมปัง ฯลฯ
- อาหารที่มีไขมันสูง: เช่น อาหารที่ทอด อาหารหมักดอง อาหารไขมันสูง
- อาหารที่มีแอลกอฮอล์: เช่น เบียร์ ไวน์
- ผลไม้ที่มีใย: เช่น แอปเปิล และลูกแพร์
การรักษาโรคเก๊าซ์มักจะต้องเป็นการรักษาระยะยาวและต้องการการดูแลทางการแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการทรุดตัวของข้อต่อและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
สนับสนุนโดย ผู้สูงอายุควรใช้เครื่องช่วยฟังแบบไหน