3 ความเชื่อผิดๆสำหรับการลดน้ำหนัก

หลายคนอาจจะสร้างกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าการลดน้ำหนักในสมัยปัจจุบันนี้มีมากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแน่นอนว่า หลายๆคนที่หันมาลดน้ำหนักมักที่จะเลือกผิดวิธีจนทำให้ร่างกายของตนเองนั้นได้รับผลกระทบหรืออาจเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการลดน้ำหนักได้

การลดน้ำหนัก  เพราะถึงแม้ว่าการลดน้ำหนัก จะเป็น หนึ่ง ในสิ่งที่หลายๆคนหันมาให้ความสำคัญเพราะสามารถทำให้ตนเองมีรูปร่างที่ดี มีหุ่นที่สวย

เพื่อที่จะได้สวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างสบาย แถมยังช่วยเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มบุคลิกภาพได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆที่มักมีพฤติกรรมทำให้น้ำหนักของตนเองเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ต้องมานั่งออกกำลังกายหรือมองหาวิธีที่จะทำให้ตนเองนั้นลดน้ำหนัก

ฉะนั้น ขอบอกเลยว่าถึงแม้การลดน้ำหนักจะสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบหรือหลากหลายวิธี แต่ในขณะเดียวกัน การที่เราเลือกวิธีในการลดน้ำหนักที่มีความเหมาะสม นอกจากจะทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ ยังเป็นการ สร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่ตนเองได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ที่หันมาลดน้ำหนักมักที่จะเลือกผิดวิธีหรืออาจมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า ความเชื่อผิดๆสำหรับการลดน้ำหนักที่หลายๆคนเชื่อนั้นจะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • ยิ่งอดก็ยิ่งผอม

ความเชื่อนี้ถือเป็น หนึ่ง ในความเชื่อที่หลายๆคนมองว่ายิ่งถ้าเราอดอาหารมากๆก็จะยิ่งทำให้น้ำหนักของเราลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเราไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอนอกจากจะทำให้ร่างกายของเรา อ่อนแอหรือขาดสารอาหารแล้วยังอาจทำให้การลดน้ำหนักไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

  • การหักโหมออกกำลังกาย

หลายคนอาจจะมองว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่องจะยิ่งทำให้ร่างกายของเราเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้อย่างชัดเจน แต่ในความเป็นจริงแล้ว

ยิ่งถ้าเราหักโหมหรือออกกำลังกายหนักจนเกินไปจะยิ่งทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบแถมยังทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการอักเสบ หรืออาจทำให้การลดน้ำหนักนั้นไม่มีประสิทธิภาพได้

  • งดแป้งช่วยลดความอ้วนได้

ในความเป็นจริงแล้วร่างกายของคนเราจำเป็นที่จะต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอให้ครบทั้ง 5 หมู่ ซึ่งแป้งก็จัดอยู่ในหมวดหมู่ของสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกาย แต่คนส่วนใหญ่กลับมองว่าแป้ง เป็นสิ่งที่ทำให้เรานั้นมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น

ซึ่งขอบอกเลยว่าหากเราทานแป้งอย่างเหมาะสม ก็ไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักของเราเพิ่มขึ้น แต่กลับจะดีต่อสุขภาพร่างกาย เพราะจะทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    เครื่องช่วยฟัง

แนะนำอาหารเช้าที่คนลดน้ำหนักควรทาน

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมองหาวิธีการลดน้ำหนักที่ทำให้ตนเองนั้นสามารถมีรูปร่างที่ดีและเห็นผลได้ชัดเจน

ซึ่งหรือไม่ว่าการที่เราจะลดน้ำหนักได้นั้นไม่จำเป็นที่เราจะต้องอดอาหารหรือออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อให้น้ำหนักของเราลดลง เพราะการที่เราจะลดน้ำหนักให้ได้ประสิทธิภาพและเห็นผลมากที่สุดนั้นสิ่งสำคัญเลยก็คือ การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

โดยไม่หักโหมจนเกินไปก็คู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย และช่วยทำให้ร่างกายของเรานั้นเกิดการเผาผลาญที่ดีมากยิ่งขึ้น ขอบอกเลยว่าหากใครที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือการเลือกรับประทานอาหารเช้า

อาหาร คนลดน้ำหนักควรทาน เพราะมื้อเช้าถือเป็นมื้อที่สำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักมื้อเช้าเราก็ไม่ควรที่จะขาดหากเราอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีและทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ

ฉะนั้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารเช้า ที่เหล่าคนลดน้ำหนักนั้นควรที่จะรับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่าจะยิ่งทำให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้อย่างชัดเจน จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย

1.น้ำเต้าหู้

ถือเป็นหนึ่งในอาหารเช้าที่หลายคนนั้นชอบ ดื่มกันเป็นอย่างมากเพราะน้ำเต้าหู้ที่หวานน้อยนอกจากจะมีประโยชน์ดีๆแก่ร่างกายของเราแล้วยังสามารถทำให้การลดน้ำหนักของเรามีประสิทธิภาพและเห็นผลได้เร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในน้ำเต้าหู้จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินถ้าเราดื่มในมื้อเช้านั้นจะยิ่งทำให้การลดน้ำหนักของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2.แซนวิชโฮลวีท

อาหารประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นมื้อเช้าที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากเพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหาร ที่เพียงพอแล้ว ยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่เราคนรักสุขภาพหรือคนอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักต้องไม่พลาด เพราะหากประเภทนี้ จะสามารถทำให้เราอิ่มท้อง และลดความอยากอาหารในระหว่างวันได้ ซึ่งก็จะมีส่วนช่วยทำให้การลดน้ำหนักของเรานั้นเห็นผลได้เร็วมากยิ่งขึ้น

3.ผลไม้หรือโยเกิร์ต

เป็นอีกหนึ่งในอาหารเช้าที่เราไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารจากผลไม้หรือโยเกิร์ตอย่างเพียงพอแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย หรือทำให้ระบบเผาผลาญไขมันของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนลดน้ำหนัก  เครื่องช่วยฟังอย่างดี  หากใครอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีหรืออยากลดน้ำหนักการรับประทานมื้อเช้าด้วยการทานผลไม้หรือโยเกิร์ตเป็นประจำนั้นจะช่วยได้อย่างแน่นอน

3 เหตุผลที่เราควรหันมาทานอาหารเพื่อสุขภาพ

อย่างที่เราทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การเลือกรับประทานอาหารในสมัยปัจจุบันนี้นอกจากจะช่วยเสริมสร้างกระบวนการทำงานของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว

ยังเป็นการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่ตนเองอีกด้วย เพราะเนื่องจากการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้จะแตกต่างกันออกไป ทำให้บางคนไม่ค่อยได้ดูแลสุขภาพร่างกาย เพราะในแต่ละวันนั้นจะเต็มที่ไปกับการทำงาน

จนทำให้บางคนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง ดังนั้น การที่เราจะสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่ตนเองได้นั้น

สิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์อยู่เสมอ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดี อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพร่างกาย ด้วยการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ

วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า เหตุผลที่เราควรรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย  

  • อาหารเพื่อสุขภาพช่วยให้สมองสดชื่น

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าอาหารเพื่อสุขภาพที่เราควรรับประทานเป็นประจำนั้นก็มีส่วนช่วยในการทำให้สมองของเรารู้สึกสดชื่นได้ เพราะการเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพจะส่งผลดีต่อสมอง จะทำให้สมองของเราสดใส ไม่อ่อนเพลีย และยิ่งเราทานเป็นประจำจะยิ่งทำให้ร่างกายของเรานั้นมีพลังงานอย่างเต็มที่ตลอดทั้งวันอีกด้วย 

  • อาหารเพื่อสุขภาพช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย

รู้หรือไม่ว่าเคล็ดลับการสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีนั้นก็คือ การทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักใบเขียว นมเปรี้ยว โบเกิร์ต ผลไม้ หรือกากใยอาหาร เพราะอาหารเหล่านี้ล้านแต่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ แถมยังสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวง และยังทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงได้อีกด้วย 

  • อาหารเพื่อสุขภาพช่วยป้องกันโรคได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ถือเป็นเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของเราให้แข็งแรงไปด้วย ฉะนั้น อาหารเพื่อสุขภาพ ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรง เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้

นอกจากนี้ หากเราเลือกที่จะงด หรือหลีกเลี่ยงอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลที่สูง ของทอด ของมัน หรืออาหารที่อาจเป็นตัวกระตุ้นการเกิดโรคร้าย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดี และปลอดภัยจากโรคร้ายได้ 

 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

เคล็ดลับการเพิ่มความสูงให้เด็กๆ ที่เราไม่ควรมองข้าม

ความสูง ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าใครก็ตามในสมัยปัจจุบันนี้คงที่อยากจะมีส่วนสูงที่สมวัย มีรูปร่างที่สมส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ๆ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่นั้นมักที่จะมองหากิจกรรม หรือตัวช่วยที่อาจเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้แก่ลูกได้

เคล็ดลับการเพิ่มความสูงให้เด็กๆ ช่วยทำให้เด็กเติบและมีส่วนสูงที่สมวัยได้ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าในสมัยปัจจุบันนี้วิธีการมากมายที่สามารถช่วยเพิ่มส่วนสูงของเราได้อย่าง่าย

โดยที่เราเองไม่จำเป็นจะต้องทนแคลเซียมตลอดไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ทานแคลเซียมเลย แต่เราก็ควรที่ะเสริมสร้างส่วนสูงวิธีอื่น  เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล   ควบคู่ไปด้วยเพิ่มให้ร่างกายของเรานั้นได้มีการพัฒนาที่ดีมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากเพิ่มส่วนสูงให้แก่ตนเอง

หรือสำหรับผู้ปกครองคนไหนที่อยากเพิ่มส่วนสูงให้แก่ลูกเพื่อให้เติบโตได้อย่างสมวัยและมีประสิทธิภาพ วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดในการเพิ่มส่วนสูงง่าย ๆ รับรองได้ว่าหากทำเป็นประจำนั้นจะยิ่งทำให้เรามีส่วนสูงที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน จะมีอะไรกันบ้าไปดูกันเลย

1.การเล่นกีฬา

แน่นอนว่าการเล่นกีฬาก็เปรียบเสมือนกับารออกกำลังกาย ซึ่งจะทำให้ร่างกายของเราเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้สร้างกล้ามเนื้อที่ดีและแข็งแรงขึ้นได้ และที่สำคัญการที่เราหมั่นเล่นกีฬาเป้นประจำนั้นจะยิ่งทำให้กระดูกของเรานั้นเกิดความยืดหยุ่นได้ดีขึ้น รับรองได้เลยว่าหากเราเล่นกีฬาเป็นประจำจะสามรถเพิ่มส่วนสูงให้แก่เราได้อย่างแน่นอน 

2.การดื่มนม

อย่างที่เราทราบกันดีว่านม อุดมไปด้วยแคลเซียมที่สูงมาก ๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะสามารถเสริมสรางความสูงให้แก่เราได้ หากเด็ก ๆ คนไหนที่อยากเติบโตอย่างสมวัยการที่ดื่มนมเป็นประจำนั้นจะทำให้แคลเซียมเข้าไปเสริมสร้างกระดูกของเราให้มีความแข็งแรง แถมยังสามารถทำให้กระดูกของเราเกิดความยืดหยุ่นและเพิ่มส่วนสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง 

3.การนอนหลับพักผ่อน

ถือเป็นหนึ่งในกิจวัยรประจำวันที่จำเป็นมาก ๆ เพราะในแต่ละวันนั้นเราต้องออกไปเผชิญกบอุปสรรคหรือสิ่งต่าง ๆ มามากมาย จึงอาจทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการเพลียได้ รู้หรือไม่ว่า การที่เราอยากเพิ่มส่วนสูงให้แก่ร่างกายขอตนเองนั้น สามารถเสริมสร้างได้ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะสิ่งนี้เองจะทำใหร่างกายของเราเกิดการซ่อมแซมตนเอในส่วนที่ซึกหรอไป จึงสามารถทำให้เรามีกระดูกที่สามารถยืดหยุ่นได้นั่นเอง

3 เทคนิคทำอย่างไรให้เรานอนหลับลึก

ทำอย่างไรให้เรานอนหลับลึก การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในสำหรับปัจจุบันนี้ถือเป็น ในความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงได้ เพราะคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มักที่จะมีพฤติกรรมการนอนหรือกันอยู่บ่อยๆเนื่องจากชีวิตนั้นเต็มที่ไปกับการทำงาน

หรือการเรียนหรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวเองก็ตามที่จะต้องทำให้เครียดหรือ มีอาการวิตกกังวลจนทำให้หลายๆคนนั้นนอนไม่หลับกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นประจำนั้นจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างหนัก แน่นอนว่านอกจากจะส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพร่างกายยังอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นอ่อนแอ

เครื่องช่วยฟังอย่างดี    มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอและเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายโดยเฉพาะการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอหรือการหลับลึกลึก เพื่อให้ร่างกายของเราได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไปถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม

ฉะนั้น สำหรับใครที่มีอาการหลับหลับตื่นตื่นในระหว่างการนอนหลับหรือ มักที่จะมีพฤติกรรมการนอนดึกและนอนไม่หลับบ่นอยู่บ่อยๆวันนี้เราก็จะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆที่จะช่วยให้คุณนั้นนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพแถมยังทำให้คุณนอนหลับได้ลึกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จะมีเทคนิคอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

 

1.ดื่มน้ำให้น้อยล

ถึงแม้ว่าการดื่มน้ำก่อนนอนจะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามและมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่าหากเราดื่มน้ำเยอะๆก่อนนอนนั้นจะทำให้เรารู้สึกปวดห้องน้ำหรือ ปวดปัสสาวะจนทำให้เรานั้นนอนหลับหลับตื่นตื่น ซึ่งสิ่งสำคัญที่เราจะนอนหลับได้ลึกมากยิ่งขึ้นนั้นทางทีดีเราควรที่จะลดปริมาณการดื่มน้ำให้น้อยลงเพื่อไม่ให้เรานั้นรู้สึกปวดฉี่ในระหว่างที่เรากำลังนอนหลับนั่นเอง

2.หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือ

รู้หรือไม่ว่าการที่เราเสพติดโซเชียลก่อนที่เราจะเข้านอนนั้นจะยิ่งทำให้เรานอนหลับได้ยากมากยิ่งขึ้นแถมยังทำให้เราเกิดอาการวิตกกังวลและนอนหลับหลับตื่นตื่นในกลางดึกได้ ฉะนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการนอนหลับหลับเป็นตื่นเราควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือก่อนที่เราจะเข้านอนเพื่อเป็นการพักสายตาและพักสมองของเรา และให้ร่างกายของเรานั้น หลับได้สบายมากยิ่งขึ้น

3.หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดๆ

มื้อดึกถือเป็นมือทีละหลายคนนั้นให้ความสำคัญเป็นอย่างมากและหลายคนมักที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน เพราะอาจจะมองว่าอาหารรสชาติจัดจะทำให้สมองตื้นและทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วหากเรารับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจนเกินไปนั้นจะทำให้ กระเพาะของเราเกิดการระคายเคืองจนอาจทำให้เรานัดรู้สึกไม่สบายตัวและนอนหลับหลับตื่นได้นั่นเอง

3 ท่าโยคะที่ช่วยเพิ่มความสูงได้

ท่าโยคะที่ช่วยเพิ่มความสูงได้ รู้หรือไม่ว่าความสูง ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะ ช่วยเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มบุคลิกภาพในการใช้ชีวิตของเราได้ แถมยังสามารถเพิ่มเสน่ห์ที่อาจจะทำให้เรานั้นสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ บางคนอาจมีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างไม่เต็มที่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีความสูงที่ไม่เหมาะสมตามวัย ซึ่งปัญหานี้ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายๆคนนั้นมักที่จะมองหาวิธีในการแก้ไขเห็นอยู่บ่อยๆ

เพราะอยากที่จะทำให้ตนเองนั้นมีความสูงที่เหมาะสมตามวัย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการเล่นกีฬา การเลือกรับประทานอาหาร หรือแม้แต่การออกกำลังกายในส่วนอื่นๆเองก็ตาม เพื่อที่จะได้เสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและเพื่อเป็นการ ยืดกล้ามเนื้อของตนเอง

เพื่อที่จะได้มีส่วนสูงที่สมตามวัยนั่นเอง แต่รู้หรือไม่ว่า การเล่นโยคะ ถือเป็นหนึ่งในการออกกำลังกายที่สามารถเสริมสร้างความสูงของเราได้ ซึ่งขอบอกเลยว่า แต่ละท่าของโยคะนั้น นอกจากจะมีประโยชน์ดีต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้ว หากสาวๆคนไหนที่อยากจะเพิ่มส่วนสูงให้ตนเอง

เพื่อเพิ่มความมั่นใจ วันนี้เราก็จะมาแนะนำ ท่าออกกำลังกายโยคะที่รับรองได้เลยว่าเล่นเป็นประจำ นอกจาก  ตรวจการได้ยินออนไลน์    จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดีของร่างกายได้แล้วยังสามารถเพิ่มส่วนสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย จะมีท่าไหนกันบ้างไปดูกันเลย

1.ท่ายืนด้วยไหล่

ท่านี้จะเป็นท่าที่เราจะต้องนอนหงาย เป็นการเกร็งหน้าท้องและกดหัวไหล่ให้ลงกับพื้น ซึ่งขอบอกเลยว่าสำหรับสาวๆคนไหนหรือหนุ่มๆคนไหนที่อยากจะเพิ่มส่วนสูงให้สมวัยการที่เล่นโยคะท่านี้ขอบอกเลยว่านอกจากจะสามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงได้แล้วยังสามารถช่วยยืดกล้ามเนื้อยืดข้อต่อของกระดูกแถมยังช่วยเพิ่มส่วนสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

2.ท่าสามเหลี่ยม

ถือเป็นหนึ่งในท่าออกกำลังกายในการเล่นโยคะที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะท่านี้เรียกได้ว่าเป็นท่าที่สามารถเพิ่มส่วนสูงของเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นท่าที่เราจะต้องยืนตัวตรงแยกขาทั้งสองข้างออกจากกัน กางแขนทั้งสองข้างให้ขนานกับพื้น หายใจเข้าออกให้เป็นจังหวะ ยิ่งถ้าเราออกท่านี้เป็นประจำ รับรองได้เลยว่าจะสามารถเพิ่มส่วนสูงของเราได้เป็นอย่างดี

3.ท่าสุนัขก้มหน้า

ท่านี้เป็นท่าง่ายๆลุ้นโดยเราจะต้องวางฝ่ามือ หัวเขา และนิ้วเท้าให้สัมผัสกับพื้นทั้งหมด และเราจะต้องเหยียดเข่าให้ตรงหลังจากนั้นให้เรายกตูดขึ้นให้อยู่บนอากาศ ทำแบบนี้ค้างไว้จะช่วยยืดเส้นยืดสายละคลายกล้ามเนื้อของเราได้เป็นอย่างดีแถมยังสามารถ ยืดกระดูกของเรา เพื่อเพิ่มความสูงได้อีกด้วย

การอดอาหารแบบย้อนกลับทำงานอย่างไร

การอดอาหารแบบย้อน กุญแจสำคัญในการเติมพลังในการออกกำลังกายและช่วยกระบวนการฟื้นตัวทั้งหมดอยู่ในตู้ครัวของคุณ! ถูกต้องแล้ว การปฏิบัติตามอาหารที่สมดุลและรับสารอาหารที่เหมาะสมก่อนและหลังการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงอาการเหนื่อยหน่ายหรืออาการโอเวอร์เทรนนิ่ง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยล้า

 

สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าคุณรับประทานแคลอรีเพียงพอเพื่อกระตุ้นกิจกรรมประจำวันของคุณ จำไว้ว่าคุณต้องใช้พลังงานมากเพื่อเคลื่อนไหวร่างกาย!

หากคุณอยู่ในภาวะขาดแคลอรีหรือสงสัยว่าคุณอาจไม่ได้ให้สิ่งที่ร่างกายต้องการในการฝึกและฟื้นฟู การอดอาหารแบบย้อนกลับอาจเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา

การควบคุมการอดอาหารแบบย้อนกลับนั้นค่อนข้างตรงตามชื่อของมัน มันเป็นแผนการที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มปริมาณแคลอรี่ของคุณอย่างช้าๆในช่วงเวลาหนึ่ง วิธีการนี้สามารถให้ประโยชน์แก่ผู้ที่ไม่ได้รับปริมาณแคลอรีที่เหมาะสมในอาหารประจำวันในปัจจุบัน ต้องการเพิ่มการรับประทานอาหารและปรับปรุงระดับพลังงาน

การอดอาหารแบบย้อนกลับเกี่ยวข้องกับการเพิ่มแคลอรี่ประมาณ 50-100 ในแต่ละสัปดาห์จนกว่าคุณจะถึงปริมาณแคลอรี่เป้าหมาย ปริมาณแคลอรี่เป้าหมายนี้ควรขึ้นอยู่กับปริมาณแคลอรี่ที่แนะนำของแต่ละคนเพื่อรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ใช่ปริมาณแคลอรี่ที่บุคคล “ทั่วไป” ได้รับ เพราะมาเจอกัน เราทุกคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความต้องการทางโภชนาการของเราก็เช่นกัน!

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการอดอาหารแบบย้อนกลับ แต่การให้สารอาหารและพลังงานที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณที่เหมาะสมผ่านอาหารสามารถช่วยปรับปรุงการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและประสิทธิภาพที่เป็นไปได้ อย่าลืมพูดคุยกับแพทย์ของคุณก่อนทำการเปลี่ยนแปลงอาหารของคุณอย่างรุนแรงMacronutrients vs Micronutrients: ความสำคัญของสารอาหารในการฝึก

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น การเติมสารอาหารให้ร่างกายของเราด้วยสารอาหารที่จำเป็นเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงของกล้ามเนื้ออ่อนล้าและการทำงานหนักเกินไป สารอาหารสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม: ธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองธาตุอาหารหลักคือสารอาหารที่ร่างกายต้องการในปริมาณมาก

ซึ่งบางส่วนได้แก่ โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต บทบาทของสารอาหารแต่ละชนิดในการสนับสนุนการฝึกและการออกกำลังกาย

ได้แก่ โปรตีนให้กรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการเพื่อช่วยสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ แนะนำให้รับประทานโปรตีน 1.2 ถึง 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หากคุณมีความกระตือรือร้นมาก แหล่งที่มาได้แก่ เนื้อไม่ติดมัน ผลิตภัณฑ์จากนมหรือถั่ว และถั่วเลนทิล ไขมันช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมวิตามินและ  เครื่องช่วยฟัง   ให้พลังงานแก่คุณในการเข้าถึง PB ระหว่างการออกกำลังกายครั้งต่อไป!

ดีที่สุดคือเลือกใช้ไขมันไม่อิ่มตัวแทนไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์เมื่อทำได้ แหล่งที่มาของไขมันไม่อิ่มตัว ได้แก่ อะโวคาโด เนยถั่ว ถั่ว และเมล็ดพืช คาร์โบไฮเดรต

แม้ว่าบางครั้งจะให้ผลที่ไม่ดี แต่ก็สามารถช่วยร่างกายของคุณในระหว่างการออกกำลังกายที่เข้มข้นและยาวนานได้ แนะนำให้กินคาร์โบไฮเดรต 3-5 กรัมต่อน้ำหนักตัวทุกๆ กิโลกรัม หากคุณต้องการเติมพลังให้กับการออกกำลังกายเบาๆ แหล่งที่มา ได้แก่ ข้าวกล้อง quinoa และผักนั่นเอง

ความสำเร็จของพาสต้าคาร์โบไฮเดรตต่ำ

พาสต้าคาร์โบไฮเดรตต่ำ New Food รับฟังว่า It’s Skinny ทำลายรูปแบบอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงแบบดั้งเดิมได้อย่างไร และแนวทางที่ธุรกิจกำลังพัฒนา Bryan Guadagno

ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ It’s Skinny Pasta ใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางไปทั่วประเทศกับ Barb Axelson ผู้ร่วมก่อตั้ง เพื่อนำเสนอต่อผู้บริหารของเครือข่ายร้านขายของชำรายใหญ่ ภารกิจของพวกเขาคือส่งเสริมการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์พาสต้าทางเลือกจากบุกของ It’s Skinny ในขณะเดียวกัน

ทีมงานเจ็ดคนของแบรนด์ยังคงมุ่งเน้นอย่างมากที่สำนักงานใหญ่ในออสติน เท็กซัส ในการทดสอบ การปรับแต่ง และการขยายตลาดออนไลน์ที่ทำให้ It’s Skinny กลายเป็นจุดขายอันดับต้น ๆ ใน Amazon

Guadagno กล่าวว่าความท้าทายคือการสร้างแนวทางที่ช่วยให้บริษัทอายุ 2 ปีสามารถขยายขนาดต่อไปได้

โดยไม่กดดันโครงสร้างทางการเงินมากเกินไป แต่โอกาสทางการตลาดตรงไปตรงมา ผู้บริโภค 1 ใน 7 คนในสหรัฐอเมริกาต้องการอาหารที่มีไกลซีมิกต่ำ ซึ่งโดยทั่วไปมักได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน ผลิตภัณฑ์พาสต้าทางเลือกก่อนหน้านี้ที่ทำจากข้าวหรือพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วชิกพีมีแคลอรีและคาร์โบไฮเดรตสูง และไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของผู้บริโภคที่มีน้ำตาลในเลือดต่ำ

ต้นตอของความสำเร็จของ It’s Skinny Konjac เป็นผักรากที่ปลูกและผลิตโดยส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ได้รับการระบุว่าเป็นทางเลือกของพาสต้ามานานแล้ว แต่ผู้บริโภครู้สึกผิดหวังกับเนื้อสัมผัสที่เหนียวเหนอะหนะ ลักษณะเป็นยาง สีโปร่งแสง และกลิ่นคาว กลุ่มผลิตภัณฑ์ It’s Skinny พัฒนาโดย Guadagno และ Axelson เอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ด้วยผลิตภัณฑ์ (สปาเก็ตตี้ เฟตตูชินี แองเจิลแฮร์ และข้าว)

ที่ตรงตามการทดสอบรสชาติ กลิ่น และรูปลักษณ์ และที่เก้าแคลอรี คาร์โบไฮเดรตสุทธิเป็นศูนย์ และโซเดียม 10 มก. ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ยังเป็นไปตามข้อกำหนดของผู้ซื้อที่ศึกษาฉลากส่วนผสมอย่างรอบคอบ

จากการติดต่อที่พัฒนาโดย Axelson ในระหว่างอาชีพของเธอในฐานะผู้นำฝ่ายขายของ Unilever และ Campbell Soup Co. It’s Skinny ประสบความสำเร็จตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการเปิดตัวระดับภูมิภาคในร้านขายของชำทั่วไป เช่น Food Lion, Publix, ShopRite และ Safeway การขายซ้ำในระดับสูงให้กับผู้บริโภคที่พึงพอใจได้พิสูจน์แล้ว

ว่าเป็นจุดขายที่สำคัญสำหรับแบรนด์ ในขณะเดียวกัน Guadagno กำลังนำเสนอการนำเสนอต่อเครือข่ายระดับประเทศซึ่งรวมถึง Walmart และ Costco ตลอดจนผู้ค้าปลีกที่ใส่ใจสุขภาพ เช่น Whole Foods Market และ Sprouts Farmers Market

ที่ธุรกิจกำลังเติบโต แม้ว่า It’s Skinny จะสร้างฐานการเติบโตในการค้าปลีกที่มีหน้าร้านจริง แต่  หูตึงรักษา   ยอดขายออนไลน์ยังคงเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในธุรกิจของบริษัท Guadagno กล่าวว่ายอดขายผ่าน Amazon คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้ของบริษัท และยอดขายทางอีคอมเมิร์ซเองก็มีส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ทั้งสองช่องได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเสริมกัน Amazon ดึงดูดผู้บริโภครายใหม่รวมถึงผู้ที่อ่อนไหวต่อค่าขนส่ง ไซต์อีคอมเมิร์ซ It’s Skinny ดึงดูดผู้ซื้อที่ภักดีต่อแบรนด์อย่างมาก

ยอดขายออนไลน์ยังคงเป็นธุรกิจส่วนใหญ่ของ It’s Skinny กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์สร้างการมีส่วนร่วมที่แท้จริงกับผู้บริโภค และ It’s Skinny ดำเนินการทดสอบการส่งข้อความบนโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การทดสอบอย่างระมัดระวังนี้บางครั้งก็สร้างความท้าทายให้กับทีมที่วิ่งเร็ว “เราจำเป็นต้องมีการทดสอบที่ดี แต่การทดสอบต้องใช้เวลา” เขากล่าว อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ Guadagno เผชิญในบทบาทของเขาในฐานะ CEO คือการทำให้แน่ใจว่าการเติบโตของ It’s Skinny จะยังคงสร้างต่อไปบนรากฐานทางการเงินที่มั่นคง

ในทศวรรษที่ผ่านมา ความงามได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่

ความงามได้ก้าวไปข้างหน้า สู่ดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นเฉพาะกลุ่ม คนไม่มีเพศและคนข้ามเพศเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าความงามกระแสหลัก

เนื่องจากสิทธิของบุคคล LGBTQ ได้รับการจัดทำขึ้นในศาล ดังนั้น สุนทรียภาพเฉพาะสำหรับพวกเขาจึงถูกซึมซับเข้าสู่บทสนทนาเกี่ยวกับความงาม นางแบบข้ามเพศเดินบนรันเวย์และปรากฏในแคมเปญโฆษณา พวกเขาได้รับการยกย่องบนพรมแดงจากความเย้ายวนใจและรสนิยมที่ดี

แต่ยังรวมถึงลักษณะทางกายภาพด้วย ร่างกายของพวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นแรงบันดาลใจ ตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความเข้าใจที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับความงามของเราคือมรสุมของเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และผู้บริโภครุ่นต่อรุ่นที่มีความรู้เกี่ยวกับความงามที่เฉียบคม

เทคโนโลยีนี้เป็นโซเชียลมีเดียโดยทั่วไปและ Instagram โดยเฉพาะ ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจคือการแข่งขันที่ไม่หยุดยั้งเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด และความต้องการที่บริษัทแต่ละแห่งจะเพิ่มจำนวนผู้ชมที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่ชุดเดรสดีไซน์เนอร์ไปจนถึงลิปสติก และข้อมูลประชากรก็นำคนรุ่นมิลเลนเนียลไปเหมือนเช่นทุกวันนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ที่วางแผนจะเข้าสู่ค่ำคืนที่ดีด้วยซิกแพคกล้ามท้อง

สื่อสังคมออนไลน์ได้เปลี่ยนวิธีที่ผู้บริโภคอายุน้อยมีความสัมพันธ์กับแฟชั่น ยากที่จะเชื่อ แต่ย้อนกลับไปในทศวรรษที่ 1990

ความคิดของช่างภาพที่โพสต์ภาพรันเวย์ทางออนไลน์เป็นเรื่องอื้อฉาว นักออกแบบใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัวอย่างมืออาชีพในการโพสต์คอลเลกชันทั้งหมดของพวกเขาทางออนไลน์ กลัวว่ามันจะนำไปสู่การทำลายธุรกิจ และในขณะที่ของลอกเลียนแบบยังคงทำให้ดีไซเนอร์ผิดหวัง

การปฏิวัติที่แท้จริงที่เกิดขึ้นจากอินเทอร์เน็ตคือการที่ผู้บริโภคสามารถมองเห็นความงามของอุตสาหกรรมแฟชั่นได้ในเวลาเกือบเรียลไทม์ ในอดีต การผลิตบนรันเวย์เป็นเรื่องวงใน พวกเขาไม่ได้มีไว้สำหรับบริโภคในที่สาธารณะ และผู้คนที่นั่งอยู่ในกลุ่มผู้ชมต่างก็พูดแบบชาวบ้านแบบเดียวกัน

พวกเขาเข้าใจดีว่าแนวคิดเกี่ยวกับรันเวย์นั้นไม่ได้มีไว้เพื่อนำมาใช้จริง พวกเขาเพิกเฉยต่อประเด็นการจัดสรรทางวัฒนธรรม การเหมารวมทางเชื้อชาติ และลัทธินิยมต่างๆ ทั้งหมด—หรือพวกเขาเต็มใจที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ นายหน้าพลังงานของแฟชั่นกำลังดำเนินการตามประเพณีของนายหน้าซื้อขายพลังงานที่มีมาก่อน

ใช้คนผิวดำและสีน้ำตาลเป็นพร็อพในการถ่ายภาพโดยมีดารานางแบบผิวขาวที่โดดร่มมาทำงาน แต่กลุ่มผู้บริโภคที่มีฐานะมีความหลากหลายมากขึ้น

เครือข่ายค้าปลีกที่กว้างขวางขึ้น และภูมิทัศน์ของสื่อใหม่ได้บีบบังคับให้อุตสาหกรรมแฟชั่นต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการนำเสนอความงาม ปัจจุบันแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องสำอางดูแลเพื่อสะท้อนถึงจำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยในประเทศต่างๆ เช่น อินเดียและจีน โดยใช้นางแบบชาวเอเชียมากขึ้น

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

แนะนำให้ตรวจคัดกรองปัญหาการนอนหลับในผู้ที่มี T2D

การนอนหลับในผู้ที่มี T2D “มาตรฐานที่ปรับปรุงใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของการนอนหลับ: ระยะเวลาการนอนหลับ เพราะเรารู้ว่ามากเกินไปหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

คุณภาพการนอนหลับ และเวลานอนด้วย ทุกสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและความเสี่ยงต่อโรคอ้วน” Gabbay กล่าวเรารู้ว่าเมแทบอลิซึมมีจังหวะเป็นกลาง (กลางวัน/กลางคืน)” แมคเคลนกล่าว การวิจัยพบว่าการทำงานกับจังหวะนั้นเพียงพอที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้

ตัวอย่างเช่น การทำงานกะกลางคืนมีความสัมพันธ์กับอัตราการเป็นโรคเบาหวานที่สูงขึ้น เขากล่าวเรายังทราบด้วยว่าการนอนหลับที่ถูกขัดจังหวะทำให้เกิดความผิดปกติ

ในการจัดการกลูโคสและการผลิตอินซูลิน” แมคเคลนกล่าว นี่เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งว่าทำไมผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจึงสามารถมีการควบคุมระดับน้ำตาลและอินซูลินที่ผิดปกติได้ การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนความเครียดและระดับออกซิเจนที่ลดลงนั้นเพิ่มเข้ามาในภาพ

เอกสารแนะนำการตรวจคัดกรองปัญหาการนอนหลับและเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ผู้ให้บริการต้องพูดคุยกับผู้ป่วยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโรคเบาหวานและการนอนหลับ

“หากมีการรบกวนการนอน อาจจำเป็นต้องพบผู้เชี่ยวชาญ” Gabbay กล่าว การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน คำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายไม่แตกต่างจากคำแนะนำสำหรับประชากรทั่วไปมากนัก แต่มีข้อเน้นย้ำ: การออกกำลังกายมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่เพียงแต่สำหรับการควบคุมน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อหัวใจอีกด้วย

Gabbay กล่าวว่าการศึกษาส่วนใหญ่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทั้งจากการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นต่ำและความเข้มข้นสูง รวมถึงการออกกำลังกายแบบแอโรบิกและการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน และในการศึกษาส่วนใหญ่ มีความสัมพันธ์ที่ตอบสนองต่อขนาดยาในลักษณะที่ว่ายิ่งมากยิ่งดี” แมคเคลนกล่าว

ปัจจัยทางสังคมที่กำหนดสุขภาพเป็น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานไม่ใช่ทุกคนที่มีการเข้าถึงเครื่องมือและกลยุทธ์ที่เท่าเทียมกันเพื่อลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานหรือยาและการดูแลรักษา ขั้นตอนแรกในการแก้ไขคือการระบุผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงโดยการคัดกรองความไม่มั่นคงด้านอาหารและที่อยู่อาศัยและอุปสรรคทางการเงิน

ตามเอกสารหากคุณไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลหรือเงินที่จะจ่ายได้ มีแนวโน้ม    เครื่องช่วยฟังราคาถูก   ว่าคุณจะไม่สามารถซื้อยาหรือการดูแลป้องกันที่ดีที่สุดได้” McClain กล่าว และมีปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ที่มีบทบาทสำคัญเช่นกัน เขากล่าว “คุณอาศัยอยู่ใน ทะเลทรายแห่งอาหาร

ซึ่งอาหารที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพเสมอไปใช่หรือไม่?

คุณอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงที่ปลอดภัยสำหรับการเดินเล่นหรือไม่ หากไม่ คุณสามารถสมัครสมาชิกสถานที่ที่คุณสามารถไปออกกำลังกายได้หรือไม่ และความเครียดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตในละแวกที่ไม่ปลอดภัยสามารถนำไปสู่การควบคุมระดับน้ำตาลที่ผิดปกติได้” แมคเคลนกล่าว สอบถามผู้ให้บริการของคุณเกี่ยวกับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ได้รับการปรับปรุง

การเปลี่ยนแปลงโครงร่างมาตรฐานการดูแลใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี การป้องกันโรคไต และการป้องกันการตัดแขนขาเช่นกัน เอกสารฉบับสมบูรณ์มีอยู่ใน Diabetes Care ฉบับเดือนมกราคม 2566 ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรพูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับมาตรฐานใหม่และถามคำถาม Gabbay

แนะนำ “นี่อาจเป็นการแจ้งเตือนที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ให้บริการที่มีงานยุ่ง ถามว่า ความดันโลหิตของฉันอยู่ที่เป้าหมายหรือไม่? ค่าคอเลสเตอรอลของฉันจำเป็นต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่เหล่านี้หรือไม่’ โดยพื้นฐานแล้ว ควรสนับสนุนตนเองและสุขภาพของพวกเขา” เขากล่าว