การทำ Water Fasting เป็นหนึ่งในแนวทางการอดอาหารแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่งมีหลักการที่เรียบง่าย นั่นคือการงดบริโภคอาหารทุกชนิด
และดื่มเฉพาะน้ำเปล่าเท่านั้นตลอดระยะเวลาของการอดอาหาร โดยส่วนมาก Water Fasting มักถูกใช้เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพ เช่น การล้างพิษ (detoxification) การลดน้ำหนัก และการกระตุ้นการฟื้นฟูของร่างกายผ่านกระบวนการออโตฟาจี (autophagy) อย่างไรก็ตาม Water Fasting ควรทำด้วยความระมัดระวังและภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
ในช่วงที่ทำ Water Fasting สิ่งที่สามารถบริโภคได้คือ **น้ำเปล่าเท่านั้น** โดยไม่มีการบริโภคอาหารใดๆ เลย ซึ่งน้ำเปล่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายยังคงการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ไม่มีอาหารเข้าสู่ร่างกาย
นอกจากนี้ น้ำยังช่วยขับสารพิษที่สะสมในร่างกายออกไป และส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูของเซลล์
น้ำที่ควรดื่มในช่วง Water Fasting ควรเป็นน้ำเปล่าสะอาดที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งใดๆ เช่น น้ำดื่มบรรจุขวดหรือน้ำก๊อกที่ผ่านการกรองแล้ว อาจเป็นน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นตามความสะดวก แต่ควรหลีกเลี่ยงการใส่สารให้ความหวาน สารเติมแต่ง หรือน้ำผลไม้ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้การทำ Water Fasting ไม่ได้ผลตามที่ต้องการ
การทำ Water Fasting เป็นระยะเวลานานอาจทำให้เกิดการขาดเกลือแร่ เนื่องจากร่างกายขับเกลือแร่ออกไปพร้อมกับน้ำที่บริโภคเข้าไป ดังนั้น การเสริมเกลือแร่ในรูปแบบน้ำเกลือแร่ที่ไม่หวานและไม่มีแคลอรี่อาจเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำในบางกรณี
เพื่อรักษาสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย เช่น โซเดียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
อย่างไรก็ตาม การเสริมเกลือแร่ควรทำอย่างระมัดระวังและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะการบริโภคเกลือแร่ที่มากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดผลเสียได้
Water Fasting สามารถทำในระยะเวลาที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของแต่ละคน โดยมีช่วงเวลาที่นิยมทำกัน เช่น 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมง หรือแม้กระทั่งการอดยาวถึง 72 ชั่วโมง การอดอาหารนานกว่านี้ควรได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากร่างกายอาจเริ่มประสบปัญหาการขาดสารอาหารและความผิดปกติของระบบต่างๆ ได้
การทำ Water Fasting มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน แต่ก็มีข้อควรระวังที่สำคัญเช่นกัน ไม่ควรทำ Water Fasting หากคุณมีปัญหาสุขภาพที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น ผู้ที่มีโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีประวัติการรับประทานอาหารผิดปกติ
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการทำงานหนักระหว่างทำ Water Fasting เพราะร่างกายจะมีพลังงานไม่เพียงพอ การทำงานหนักอาจทำให้เกิดความอ่อนเพลียและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
การทำ Water Fasting เป็นการอดอาหารที่เน้นการดื่มน้ำเปล่าเท่านั้น โดยไม่มีการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีแคลอรี่ การทำเช่นนี้มีประโยชน์หลายประการ เช่น การลดน้ำหนัก การล้างสารพิษออกจากร่างกาย และการฟื้นฟูเซลล์ แต่การทำ Water Fasting ควรทำด้วยความระมัดระวัง
ได้รับการสนับสนุนโดย คาสิโน เวียดนาม ฮานอย