โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ เป็นภาวะที่เกิดการอักเสบในลำไส้ใหญ่ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ การตอบสนองภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ หรือปัจจัยทางพันธุกรรม โรคลำไส้ใหญ่อักเสบสามารถแบ่งได้เป็นหลายชนิด เช่น โรคโครห์น และโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง ซึ่งเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ( รวมถึงการอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต
ความรุนแรงของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบขึ้นอยู่กับชนิดของโรคและระยะของการอักเสบ ในบางกรณี โรคอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยและสามารถควบคุมได้ด้วยยา แต่ในกรณีที่รุนแรง โรคอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น การเกิดแผลลึกในลำไส้ใหญ่ การตกเลือดรุนแรง ภาวะลำไส้ทะลุ (Perforation) หรือภาวะลำไส้ใหญ่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว (Toxic Megacolon) ซึ่งสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อาการของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบสามารถแตกต่างกันไปตามชนิดและความรุนแรงของการอักเสบ อาการที่พบบ่อยได้แก่:
– ปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย
– ท้องเสีย บางครั้งมีเลือดปน
– น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
– เบื่ออาหาร รู้สึกอ่อนเพลีย
– มีไข้
– ถ่ายเป็นเลือดหรือมูก
หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษา
การรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุและชนิดของโรค รวมถึงความรุนแรงของอาการ การรักษาหลัก ๆ ได้แก่:
- การใช้ยา: การรักษาโรคนี้มักเริ่มจากการใช้ยาลดการอักเสบ เช่น ยาเมซาลามีน หรือยาสเตียรอยด์ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก อาจต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น อะซาไธโอพรีน หรือยาไบโอลอจิกส์ เช่น อินฟลิซิแมบ ในกรณีของการติดเชื้อที่เป็นสาเหตุ แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัสตามความเหมาะสม
- การปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญในการจัดการอาการของโรค อาจต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการอักเสบหรือทำให้เกิดอาการ เช่น อาหารที่มีเส้นใยสูง อาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส การปรึกษากับนักโภชนาการสามารถช่วยสร้างแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมได้
- การผ่าตัด: ในบางกรณีที่อาการไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง การผ่าตัดอาจจำเป็น เช่น การตัดส่วนที่อักเสบของลำไส้ออก หรือในกรณีที่รุนแรงมาก อาจต้องผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ทั้งหมดออก
- การรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ: เช่น การฉายแสง หรือการรักษาด้วยวิธีทางภูมิคุ้มกันที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย
แม้ว่าการป้องกันโรคลำไส้ใหญ่อักเสบไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่เนื่องจากมีปัจจัยทางพันธุกรรมและภูมิคุ้มกันเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่การดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการหลีกเลี่ยงสารเคมีหรือยาที่อาจกระตุ้นการอักเสบ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือช่วยควบคุมอาการได้
ได้รับการสนับสนุนโดย คาสิโน เวียดนาม ดานัง