ป่วยเป็นโรค มือ เท้า ปาก สำหรับ มือ เท้า ปาก หมอจะกระทำวิเคราะห์แยกโรคตามลักษณะอาการ เช่น คนเจ็บที่มีผื่นขึ้นตามฝ่ามือ เท้า บางทีอาจจำเป็นต้องแยกออกมาจากการเป็นโรคผื่นแพ้ประเภทอื่น หรือโรคอีสุกอีใส หรือผื่นจากเชื้อประเภทอื่น ๆ
สำหรับโรคมือเท้าปาก โดยปกติหมอจะดำเนินการตรวจสอบหรือพิจารณาจากอาการและก็อาการแสดง แต่ว่าถ้าหากคนป่วยมีลักษณะอาการแทรกร้ายแรง หมอบางทีอาจทำส่งไปเพื่อทำการตรวจเสริมเติมเพื่อการันตี ซึ่งการตรวจเพิ่มอีกนี้ไม่จำเป็นที่ต้องทำในคนป่วยทุกราย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหมอ อาทิเช่น
– การส่งไปเพื่อทำการตรวจแบบอย่างตัวอย่างเชื้อจากสารหลั่งแล้วก็/หรืออุจจาระ (ใช้เวลาราว 1-7 วัน ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการตรวจ)
– การตรวจค้นยีนของเชื้อไวรัสด้วยแนวทาง PCR
– การเพาะเชื้อเชื้อไวรัส
การดูแลและรักษาโรคมือ เท้า ปาก
เพราะในขณะนี้โรคมือ เท้า ปาก ยังไม่มีการดูแลรักษาที่เป็นโดยตรง การดูแลและรักษาก็เลยเป็นการรักษาอาการปกติตามแต่ลักษณะของคนป่วย อาทิเช่น เจ็บคอมาก เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน กินอะไรมิได้ คนเจ็บเหนื่อยจากการได้รับอาหารไม่เพียงพอแล้วก็น้ำ ก็จะให้ป้อนน้ำให้กับลูกแทน หรือป้อนนมรวมทั้งของกินอ่อน ๆ ในรายที่เหนื่อยเกินแบบจะหมดแรง บางทีอาจให้นอนรักษาตัวในสถานพยาบาลแล้วก็ให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด ร่วมกับให้ยาลดไข้แก้ปวด รวมทั้งหยอดยาชาในปาก เพื่อลดลักษณะการเจ็บแผลในปาก ร่วมกับการเฝ้าระวังดูลักษณะของภาวะแทรกซ้อนทางสมองแล้วก็หัวใจ ฯลฯ
เนื่องมาจากในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนคุ้มครองปกป้องตัวเองให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสที่ส่งผลให้เกิดโรคมือเท้าปาก สิ่งจำเป็นที่สุดเป็นการดูแลและรักษาสุขลักษณะที่ดี โดยพ่อกับแม่สามารถปกป้องลูกจากโรคมือเท้าปาก รวมทั้งคุ้มครองลูกไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่บางทีอาจร้ายแรงถึงเสียชีวิตได้โดย
– หลบหลีกการให้เด็กคลุกคลีหรือสนิทสนมกับคนป่วย
– รักษาอนามัยส่วนตัว โดยยิ่งไปกว่านั้นคนเลี้ยงดูเด็กตัวเล็ก ๆ ควรจะล้างชำระล้างมือก่อนจับของกินให้เด็กกิน แล้วก็กินอาหารที่สุก สะอาด ปรุงใหม่ ๆ กินน้ำสะอาด
– ไม่ใช้ภาชนะสำหรับในการกินอาหารร่วมกับคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช้อน จาน จานชาม ถ้วยน้ำ ขวดที่มีไว้ใส่นม
– หากต้องทำการเช็ดน้ำมูกหรือน้ำลายให้เด็ก ต้องทำความสะอาดมือ โดยการล้างทำความสะอาดทันที
– ถ้าเกิดเด็กมีลักษณะอาการคล้าย ๆ จะเป็นโรคมือเท้าปากให้รีบพาเด็กไปตรวจที่สถานพยาบาลทันที และงดไปโรงเรียน