เจ้าหมาพิตบูลเครียดหาที่อยู่ใหม่ให้หมาไม่ได้ กระโดดรถพยาบาลหวังฆ่าตัวตาย 

       เกี่ยวกับกรณีที่สาวคนหนึ่งที่ชื่อเจ๊หงษ์ซึ่งเธอเป็นเจ้าของสุนัขพันธุ์พิทบูลทั้งหมด 7 ตัวที่มีการเลี้ยงเอาไว้ในคอนโดแห่งหนึ่งที่จังหวัดปทุมธานี

และก็กำลังเป็นข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้เมื่อลูกบ้านของคอนโดรวมถึงนิติบุคคลของคอนโดดังกล่าวนั้นรวมตัวกันเรียกร้องให้เธอนั้นได้ย้ายพิทบูลทั้งหมด 7 ตัวออกจากคอนโดให้เร็วที่สุดโดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องย้ายให้ได้ภายใน 3 วันเนื่องจากว่าเธอได้นำสุนัขพันธุ์พิทบูลมาเลี้ยงไว้ในคอนโด

โดยที่ไม่สนใจปล่อยปละละเลยปล่อยให้สุนัขนั้นเดินเพ่นพ่านภายในคอนโดโดยที่ไม่สนใจออกมาดูแลทำให้นอกจากคอนโดจะเหม็นกลิ่นฉี่และอึของสุนัขทั้ง 7 ตัวแล้วยังสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโด

ดังกล่าวเพราะเกรงว่าสุนัขพันธุ์พิทบูลถ้ามันอารมณ์ไม่ดีก็อาจจะกัดคนในคอนโดได้ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่นิติคอนโดได้เคยมีการพูดคุยกับเจ๊หงษ์หลายรอบแล้วเกี่ยวกับเรื่องของการที่ให้เจ๊หงษ์นั้นย้ายสุนัขพันธุ์พิทบูลออกไปไว้ที่อื่นเพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนในคอนโด

แต่เธอก็ไม่เคยยอมเลยแต่ในที่สุดทางด้านนิติบุคคลจึงได้มีการร้องเรียนอย่างสื่อของช่อง 3 ให้ช่วยออกข่าวและมีหน่วยงานมาที่เกี่ยวข้องเข้าไปพูดคุยกับเจ๊หงษ์และยืนยันไม่ยอมให้เจ๊ของนะเลี้ยงสุนัขภายในคอนโดได้สุดท้ายเจ้าของก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ให้กับสุนัขซึ่งในครั้งแรกนั้นมีหน่วยงานที่ดูแลสุนัขโดยตรงนั่นก็คือหน่วยงาน วอชด็อก  อาสาที่จะหาบ้านใหม่ให้กับสุนัขพิทบูลทั้ง 7 ตัว

แต่เจ๊หงษ์ซึ่งเป็นเจ้าของไม่ยินยอมต้องการที่จะหาที่อยู่ให้กับคณะของเธอเองและจะย้ายสุนัขของตัวเองซึ่งในวันที่ 12 เดือนกันยายนปีพศ2563 เธอได้นำสุนัขพิทบูลทั้ง 7 ตัวใส่ไว้ในรถเก๋งและเธอได้ขับตระเวนหาเช่าบ้านเพื่อที่จะได้อาศัยอยู่กับสุนัขทั้ง 7 ตัวอย่างไรก็ตามไม่มีเจ้าของบ้านหลังไหนเปิดให้เธอเช่าอาศัย

เพราะหลังจากที่รู้ว่าเธอจะเอาสุนัข 7 ตัวมาอยู่ด้วยเจ้าของบ้านต่างก็พากันปฏิเสธให้เธอชอบบ้านกันหมดมันทำให้เธอเกิดความเครียดและในขณะเดียวกันรถเก๋งที่เธอกลับมานั้นเกิดมีน้ำมันหมดระหว่างทางพอดีซึ่งบังเอิญโชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจขับรถผ่านมาจึงได้ให้การช่วยเหลือ  ซึ่งจากการที่ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจดูจากหน้าตาของเธอแล้วทำให้รู้ว่าเธอนั้นค่อนข้างเครียดและอ่อนเพลียทางด้านเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานงานให้รถพยาบาลมารับตัวเธอแต่อย่างไรก็ตามขณะที่เธอเดินขึ้นรถเราพยาบาลไปนั้นเธอก็ได้พยายามที่จะกระโดดออกจากรถไม่หวังที่จะฆ่าตัวตาย

ซึ่งจากการพูดคุยรักเธอแล้วทำให้รู้ว่าเจ๊หงส์นั้นค่อนข้างเครียดมากสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับทางด้าน วอชด็อก อีกรอบหนึ่งให้ช่วยตามหาบ้านที่จะสามารถนำสุนัขพันธุ์พิทบูลทั้ง 7 ตัวไปอยู่ได้ซึ่งในขณะนี้สามารถหาที่อยู่ให้กับสุนัขทั้ง 3 ตัวได้แล้วยังเหลืออีก 4 ตัวที่ยังต้องหาให้อยู่

 

ขอบคุรผู้ให้การสนับสนุนโดย  แทงหวยจับยี่กี

เพื่อนบ้านอายุ 65 ปีข่มขืนเด็กพิการทางสมองอายุ 14 ปีจนตั้งท้อง

            ที่จังหวัดบุรีรัมย์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากสามีภรรยาคู่หนึ่งให้ดำเนินคดีกับเพื่อนบ้านซึ่งมีอายุ 65 ปีโดยระบุว่าและคนดังกล่าวนั้นได้ข่มขืนกระทำชำเราหลานสาวของเขาซึ่งมีอายุเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้นโดยมีการข่มขืนมาหลายครั้งและปัจจุบันหลานสาวของเขานั้นได้ตั้งครรภ์แล้ว และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกตัวชายวัย 65 ปี

มาทำการสอบสวนชายคนนั้นเขาก็รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจึงและทุกครั้งที่มีการก่อเหตุก็มักจะจ่ายเงินให้กับเด็กวัย 14 ปีทุกครั้งเช่นเดียวกันเธอจะมีการจ่ายเงินให้ครั้งละ 20 บาทอย่างไรก็ตามเรื่องราวดังกล่าวนั้นได้มีการแจ้งความไว้นานถึง 2 เดือนแล้วแต่คดียังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใดผู้กระทำความผิดไว้ 65 ปีมันคงใช้ชีวิตตามปกติภายในหมู่บ้านไม่ถูกจับกุม

แต่อย่างใดอีกทั้งยังมักชอบผู้ชายเอ๊ยทางฐานครอบครัวของเด็กหญิงวัย 14 ปีเราไม่สามารถที่จะเอาผิดเขาได้อย่างแน่นอนเพราะเขานี่มีเส้นสายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทางครอบครัวผู้เสียหายมองว่าสายไหม 65 ปีน่าจะเป็นคนมีอิทธิพลคนหนึ่งเพราะแจ้งความไปตั้งนานแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ดำเนินการอย่างไรบ้างพวกเขาจึงได้ร้องเรียนมาที่นักข่าวโดยติดต่อไปที่นักข่าวของช่อง 3 ให้ช่วยทำข่าวที่เขาได้มีความแจ้งความเอาไว้เพื่อให้คดีคืบหน้าอย่างเร็วและเพื่อไม่ให้ชายวัย 65 ปีนั้นสามารถใช้อภิสิทธิ์การมีเส้นสายกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ตนเองรอดพ้นจากคดีดังกล่าวได้ 

            แล้วก็ตามแต่ทางด้านครอบครัวผู้เสียหายและมีใบแจ้งความเอาไว้แล้วอีกทั้งในใบแจ้งความก็มีการเขียนคำรับสารภาพของชายวัย 65 ปีอีกด้วย แต่ทางด้านผู้เสียหายเองก็หวั่นว่าจะดีจะเงียบไปทุกวันนี้ทางด้านผู้ก่อเหตุไป 65 ปียังคงติดต่อมาที่บ้านของผู้เสียหายอยู่เป็นระยะเพื่อต้องการเอาเงินมาให้หวังจะให้จบคดีเร็วๆจะมีการส่งเงินมาให้ที่ 20,000 บาท

แต่ทางครอบครัวผู้เสียหายยืนยันอยากจะให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ทางชายวัย 65 ปีไปก่อเหตุแบบนี้กับเด็กคนอื่นอีกอะไรก็ตามแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางและมีการพูดเกี่ยวกับเรื่องของเด็กวัย 14 ปีที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์อยู่ตั้งหลายคนมองว่ากรณีแบบนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะมีการอนุมัติให้เด็กสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ยังไม่ใช่นะ

เด็กที่เกิดมาก็จะมีตราบาปติดตัวก็เขาส่งมาไม่ใช่เกิดจากความรักของพ่อแม่ที่สำคัญแม่วัย 14 ปีก็ไม่สามารถที่จะเลี้ยงลูกของตนเองได้และครอบครัวของเด็กวัย 14 ปีก็มีฐานะยากจนไม่สามารถรับสมาชิกเพิ่มได้อะไรก็แล้วแต่ได้มีการออกมาพูดถึงเรื่องเราจึงกล่าวว่าไม่สามารถที่จะให้เด็กวัย 14 ปีที่การตั้งครรภ์ได้เพราะเด็กท้องแล้ว 7 เดือนซึ่งเด็กในครรภ์โตมากแล้วพร้อมที่จะเกิดออกมาแล้วดังนั้นจึงต้องปล่อยให้เด็กนั้นคลอดออกมาหลังจากนั้นในงานมูลนิธิต่างๆจะนำตัวเด็กไปเลี้ยงให้แทนแม่ของเด็กเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  หวยฮานอยวันนี้

ซื้อน้ำอัดลมมาดื่มกับพบว่าข้างในมีใยสีดำเหนียวข้น

        เมื่อ วันที่ 15 เดือนตุลาคมปีพ.ศ. 2563  ได้มีหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเป็นคนจังหวัดชลบุรีได้มีการโพสต์ Facebook ส่วนตัวและชี้แจงรายละเอียดของข้อความใน Facebook โดยเธอระบุว่าเป็นการโพสต์เตือนภัยสำหรับคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลม  ซึ่งเธอได้เล่ารายละเอียดใน Facebook ของเธอว่าปกติแล้วเธอเป็นคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมมากโดยเธอจะซื้อน้ำอัดลมนั้นมาดื่มเป็นประจำทุกวัน 

          ซึ่งน้ำอัดลมที่เธอดื่มนั้นเป็นน้ำอัดลมยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งพี่มีการโฆษณายาต่อเนื่องในทีวีในขณะนี้โดยเธอบอกว่าในขณะที่เธอดื่มน้ำอัดลมหมดไปแล้วนั้นโดยปกติแล้วเธอจะเก็บกระป๋องน้ำอัดลมเอาไว้เพื่อนำไปขายต่อซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อกินน้ำอัดลมหมดแล้วเธอจึงได้เทกระป๋องน้ำอัดลมอีกครั้งหนึ่งเพราะเกรงว่าอาจจะมีน้ำอัดลมค้างอยู่ในกระป๋องแต่หลังจากที่เธอออกมานั้นปรากฏว่ามีใยสีดำร่วงออกมาด้วยและเมื่อลองจับดูไยสีดำดังกล่าวนั้นมีลักษณะของความเหนียวและความข้น 

            ซึ่งตัวเธอเองนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรด้วยความสงสัยเธอจึงได้ตัดกระป๋องเพื่อจะได้ดูว่าไยสีดำข้างในนั้นคืออะไรและได้มีการถ่ายคลิปวีดีโอขณะที่มีการตัดกระป๋องไว้ด้วยเพื่อเอาไว้ใช้เป็นหลักฐาน หลังจากที่เคยเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ปนมาในกระป๋องน้ำอัดลม  สาวจึงได้มีการไปที่เว็บไซต์ของบริษัทน้ำอัดลมดังกล่าวพร้อมทั้งได้มีการบอกเล่าสิ่งที่เธอพบเจอและต้องการถามหาความรับผิดชอบและคำอธิบายจากบริษัทน้ำอัดลมแต่หลังจากที่เธอติดต่อไปเป็นระยะเวลาหลายวันก็ไม่มีการตอบกลับมาจากบริษัทน้ำอัดลมแต่อย่างใดเธอจึงได้โพสต์เรื่องราวนี้เอาไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้กับคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมให้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน

           หรือทางที่ดีก็ควรที่จะซื้อน้ำอัดลมที่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้นั่นก็คือการซื้อกินแบบเป็นขวดแทนที่จะซื้อเป็นแบบกระป๋องเพราะการซื้อกินแบบกระป๋องนั้นจะไม่สามารถมองเห็นด้านในซึ่งอาจจะมีสิ่งปนเปื้อนอยู่ภายในได้เบื้องต้นหญิงสาวได้เก็บไยสีดำนั้นเอาไว้โดยเก็บไว้ในถุงซิปล็อคเพื่อเอาไว้เป็นหลักฐานหากว่าทางบริษัทน้ำอัดลมติดต่อมาก็สามารถที่จะมาตรวจขอหลักฐานจากเธอได้  

           อย่างไรก็ตามเธออยากเรียกร้องให้กับบริษัทน้ำอัดลมได้มีการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของสินค้าของตนเองก่อนที่จะมีการส่งออกขายให้กับประชาชนเพื่อที่ประชาชนนั้นจะได้ไม่มีความเสี่ยงในการที่จะกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไปและอาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิตของพวกเขาได้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยออนไลน์

รุ่นพี่วัย 21 ปีทำร้ายร่างกายรุ่นน้องวัย 14 ปีเพราะเขม่นแทนรุ่นน้อง

รุ่นพี่วัย 21 ปีทำร้ายร่างกายรุ่นน้องวัย 14 ปีเพราะเขม่นแทนรุ่นน้องอีกคนปมหึงหวงผู้ชาย

          ก่อนหน้านี้ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปเกี่ยวกับเรื่องหญิงสาววัย 14 ปีถูกทำร้ายร่างกายจากรุ่นที่วัย 21 ปีด้วยการเตะเสยที่ปลายคางจนเป็นเหตุทำให้หญิงสาววัย 14 ปีสลบคาที่เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นมีผู้เห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้และนำมาโพสต์ลงในสื่อโซเชียลอย่างไรก็ตามคลิปวีดีโอดังกล่าวนั้นยังถูกหญิงวัย 14 ปีนำไปแจ้งความดำเนินคดีกับรุ่นพี่วัย 21 ปีอีกด้วย 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นหญิงสาววัย 14 ปีเธอชื่อว่าน้องไอซ์ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในวันดังกล่าวนั้นตรงกับวันที่ 13 เดือนมิถุนายนปีพศ2563 ช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงที่เธอได้นัดเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อว่าหมวยมาพูดจาเคลียร์กันปัญหาเรื่องของที่เธอนั้นระแวงเพื่อนที่ชื่อหมวยว่าจะไปยุ่งเกี่ยวกับแฟนหนุ่มของเธอซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่มีการพูดคุยกันแต่ไม่สามารถตกลงกันได้

จึงทำให้เกิดการทะเลาะและทำร้ายร่างกายกันขึ้นเธอและหมวยได้มีการตบตีกัน แต่ไม่นานก็มีการแยกย้ายกันไปและได้มีการมาเคลียร์กันใหม่อีกครั้งหนึ่งซึ่งปัญหาระหว่างเธอกับหมวยนั้นก็ได้จบลงไปแล้วแต่ยังไงก็ตามเมื่อรุ่นพี่ของหมวยคนหนึ่งที่ชื่อว่าแบมรู้เรื่องก็ทำให้ดังนั้นเกิดความไม่พอใจจึงมาทำร้ายเธอแทนหมวยซึ่งดนตรีคนดังกล่าวนั้นได้มีการทำร้ายน้องไอซ์ด้วยการเอาเท้าแตะไปที่ใบหน้าของน้องไอซ์จนสลบ

ซึ่งเหตุการณ์นี้มีเพื่อนของน้องอายุได้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้ได้หลังจากที่น้องไอซ์นั้นตื่นขึ้นมาก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายและนำมาเป็นหลักฐานพร้อมกับคลิปวีดีโอไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อต้องการเอาผิดนางสาวแบมอย่างไรก็ตามเบื้องต้นนางสาวแบ่งได้รับทราบข้อกล่าวหาจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วและยินดียอมรับผิดทุกอย่างในขณะที่ญาติของน้องไอซ์นั้น

ก็ได้มีการออกมาพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าพวกเขานั้นไม่ได้ติดใจเอาความอะไรนางสาวแบมต่อไปเพียงแต่ว่าที่จะไปแจ้งความนั้นเพราะต้องการป้องกันปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการที่นางสาวแบมอาจจะมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้องไอซ์ได้อีกดังนั้นจึงได้มีการแจ้งเรื่องดำเนินคดีเอาไว้ซึ่งก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายไปตามปกติ

ส่วนนางสาวแบบนั้นไม่จำเป็นต้องมาขอโทษญาติพี่น้องของน้องไอซ์เพียงแต่ว่าต้องการขอให้แยกกันอยู่ไม่ต้องการให้มาทำร้ายซึ่งกันและกันอีก สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้คุณยายของน้องไอซ์ยังได้พูดเตือนใจกลุ่มวัยรุ่นว่าก่อนที่จะทำอะไรให้มีสติและไม่ควรจะทำร้ายร่างกายกันเพราะเมื่อมีผู้บาดเจ็บก็จะต้องมีคนที่ต้องรับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งไม่เกิดผลดีกับใครเลย

 

สนับสนุนโดย  รวมเว็บหวยออนไลน์