โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ โรคนี้ร้ายแรงหรือไม่ เป็นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร

โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ  เป็นภาวะที่เกิดการอักเสบในลำไส้ใหญ่ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ การตอบสนองภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ หรือปัจจัยทางพันธุกรรม โรคลำไส้ใหญ่อักเสบสามารถแบ่งได้เป็นหลายชนิด เช่น โรคโครห์น  และโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง  ซึ่งเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ( รวมถึงการอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต

 

ความรุนแรงของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบขึ้นอยู่กับชนิดของโรคและระยะของการอักเสบ ในบางกรณี โรคอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยและสามารถควบคุมได้ด้วยยา แต่ในกรณีที่รุนแรง โรคอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น การเกิดแผลลึกในลำไส้ใหญ่ การตกเลือดรุนแรง ภาวะลำไส้ทะลุ (Perforation) หรือภาวะลำไส้ใหญ่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว (Toxic Megacolon) ซึ่งสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

อาการของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบสามารถแตกต่างกันไปตามชนิดและความรุนแรงของการอักเสบ อาการที่พบบ่อยได้แก่:

– ปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย

– ท้องเสีย บางครั้งมีเลือดปน

– น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

– เบื่ออาหาร รู้สึกอ่อนเพลีย

– มีไข้

– ถ่ายเป็นเลือดหรือมูก

หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษา

การรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุและชนิดของโรค รวมถึงความรุนแรงของอาการ การรักษาหลัก ๆ ได้แก่:

  1. การใช้ยา: การรักษาโรคนี้มักเริ่มจากการใช้ยาลดการอักเสบ เช่น ยาเมซาลามีน หรือยาสเตียรอยด์ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก อาจต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น อะซาไธโอพรีน หรือยาไบโอลอจิกส์ เช่น อินฟลิซิแมบ  ในกรณีของการติดเชื้อที่เป็นสาเหตุ แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัสตามความเหมาะสม

 

  1. การปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร  การรับประทานอาหารที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญในการจัดการอาการของโรค อาจต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการอักเสบหรือทำให้เกิดอาการ เช่น อาหารที่มีเส้นใยสูง อาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส การปรึกษากับนักโภชนาการสามารถช่วยสร้างแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมได้
  2. การผ่าตัด: ในบางกรณีที่อาการไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง การผ่าตัดอาจจำเป็น เช่น การตัดส่วนที่อักเสบของลำไส้ออก หรือในกรณีที่รุนแรงมาก อาจต้องผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ทั้งหมดออก 
  3. การรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ: เช่น การฉายแสง หรือการรักษาด้วยวิธีทางภูมิคุ้มกันที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย

 

แม้ว่าการป้องกันโรคลำไส้ใหญ่อักเสบไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่เนื่องจากมีปัจจัยทางพันธุกรรมและภูมิคุ้มกันเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่การดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการหลีกเลี่ยงสารเคมีหรือยาที่อาจกระตุ้นการอักเสบ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือช่วยควบคุมอาการได้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    คาสิโน เวียดนาม ดานัง

มื้อดึกกินอะไรได้บ้าง  ที่จะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

มื้อดึกกินอะไรได้บ้าง  ที่จะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

เชื่อว่าหลายคนคงรู้ดีอยู่แล้วว่าการกินอาหารมื้อดึกนั้นไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกายเลยแต่บางครั้งที่เราเองก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการทานอาหารมื้อดึกได้  เนื่องจากว่าบางคนนั้นอาจจะมีอาชีพที่ต้องนอนหลับพักผ่อนในตอนกลางวันและต้องตื่นขึ้นมาทำงานในช่วงเวลากลางคืนอย่างเช่นคนทำงานกะดึก

หรือแม้แต่อาชีพหมอและพยาบาลเป็นต้นซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถที่จะควบคุมช่วงเวลาที่จะรับประทานอาหารได้  ดังนั้นในบทความนี้เราจึงจะมาพูดถึงอาหารที่เราจะสามารถกินได้ในช่วงเวลาตอนกลางคืนหรือมื้อดึกซึ่งเมื่อเรากินเข้าไปแล้วมันจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายของเรานั่นเอง

สำหรับใครที่ชอบกินอาหารมื้อดึกแต่ไม่อยากให้อาหารที่กินเข้าไปนั้นส่งผลเสียต่อร่างกาย ก็จำเป็นที่จะต้องมีการเลือกอาหารในการกินเพราะเราไม่สามารถกินอาหารทุกอย่างในช่วงเวลาตอนดึกได้เพราะยิ่งกินอาหารประเภทไขมันสูง อย่างเช่น อาหารประเภท Fast Food ก็อาจจะทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายและสุขภาพรวมถึงทำให้เกิดโรคภัยต่างๆได้

ดังนั้นอาหารที่เราจะสามารถกินได้และไม่เกิดผลใดๆต่อร่างกายของเราเลยก็คืออาหารประเภทธัญพืชรวมถึงถั่ว

เพราะจะให้พลังงานในช่วงเวลาตอนกลางคืนและที่สำคัญยังทำให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้นนอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้นนอกจากนี้เรายังสามารถทานไข่ต้มได้เพราะไข่ต้มถึงแม้ว่าจะมีโปรตีนสูงแต่สามารถทานในปริมาณที่น้อยได้และทำให้อิ่มท้องได้นานซึ่งเราสามารถที่จะทานไข่ต้มประมาณ 1-2 ฟองในช่วงเวลากลางคืนก็จะทำให้เราไม่หิวได้แล้ว

สำหรับใครที่ชื่นชอบการทานผลไม้ในช่วงเวลากลางคืนหรือมื้อดึกของคุณนั้นก็สามารถเลือกทานผลไม้ได้เช่นเดียวกันแต่ว่าควรจะต้องเลือกผลไม้ที่มีความหวานน้อย

และการทานผลไม้นั้นก็ยังมีประโยชน์เพราะมันสามารถไปเผาผลาญพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยมและที่สำคัญทำให้ไม่มีไขมันสะสมในร่างกายได้อีกด้วยเพราะรับผลไม้นั้นไม่มีไขมันเป็นส่วนผสมนั่นเอง

นอกจากนี้หากใครที่อยากรู้สึกนอนหลับสบายจากการกินอาหารมื้อดึกนั้นเราก็สามารถเลือกที่จะทานนมจืดก็ได้เช่นเดียวกันเพราะนมถึงแม้ว่าจะมีโปรตีนและไขมันแต่ก็เป็นไขมันดีดังนั้นการทานนมนั้นจึงทำให้โอกาสที่จะอ้วนนั้นเป็นไปได้น้อยมากรวมถึงถ้าหากใครอยากที่จะมีระบบขับถ่ายที่ดีก็อาจจะมีการทานโยเกิร์ตเพิ่มซึ่งการเลือกทานโยเกิร์ตนั้นก็จะช่วยให้ตอนเช้าตื่นขึ้นมาแล้วคุณสามารถถ่ายท้องเพราะโยเกิร์ตนั้นมันช่วยเรื่องของการย่อยอาหารได้นั่นเอง 

จะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่าเราจะกินมื้อดึกแต่ถ้าเราเลือกอาหารการกินของเราให้ดีเราก็จะสามารถทานมื้อดึกได้โดยที่เรานั้นไม่รู้สึกผิดและเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพยายามทานอาหารตามช่วงเวลาปกติเหมือนกับคนอื่นแต่ระบบการเผาผลาญของร่างกายของเราก็ยังคงดีเหมือนกับคนที่ทานอาหารมื้อปกติได้เช่นกัน 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  คาสิโนเวียดนาม

ใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงของความงาม

รูปภาพเผยให้เห็นว่าการแต่งหน้ามีวิวัฒนาการอย่างไรในช่วง 100 ปี – จากความเย้ายวนใจในปี 1920 ไปจนถึงปี 70 บรอนเซอร์และผิวที่สดชื่นในปัจจุบัน

ผู้เชี่ยวชาญจาก Transform Hospital Group ตรวจสอบวิวัฒนาการของเทรนด์ความงาม เล่าว่าการระบาดของโควิดเปลี่ยนการเน้นความงามจากลุคหนักๆ มาเป็นลุคธรรมชาติได้อย่างไร คาดการณ์ว่าขั้นตอนที่ไม่ผ่าตัดจะได้รับความนิยมในอีกสิบปีข้างหน้า การแพร่ระบาดของโควิดมีส่วนสำคัญในการเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากลุคแบบอินฟลูเอนเซอร์ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงปี 2010

มาเป็นลุคที่ดูเป็นธรรมชาติและสดชื่นมากขึ้น แต่ความงามได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในประวัติศาสตร์?

ตั้งแต่ความหรูหราและความเย้ายวนใจของทศวรรษ 1920 ไปจนถึงแนวทางการแต่งหน้าและซ่อมแซมของผู้หญิงในอังกฤษในช่วงสงครามที่ใช้ไม้ก๊อกเผาสำหรับปัดมาสคาร่า และใช้น้ำบีทรูทสำหรับลิปสติก แต่ละยุคสมัยต่างก็มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไป

ผู้เชี่ยวชาญจาก Transform Hospital Group ได้ตรวจสอบว่าเทรนด์ความงามเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วงสิบทศวรรษที่ผ่านมา และการแต่งหน้าแบบใดที่ยืนหยัดผ่านการทดสอบของกาลเวลา ในช่วงทศวรรษที่ 1920 มีผู้หญิงแต่งหน้าเพิ่มมากขึ้น การตีตราในช่วงแรกๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งหน้าก็หมดไป และผู้หญิงก็รู้สึกสบายใจที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด

เพื่อเพิ่มความงามของตนเอง การปรับรูปริมฝีปากเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ โดยผู้หญิงจะจัดริมฝีปากให้เล็กกว่าโครงร่างตามธรรมชาติและจัดรูปทรงให้ดูเหมือนมีรูปโค้งของกามเทพ สีแดงเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในทศวรรษนี้

ผู้คนยังคงรู้สึกตึงเครียดทางการเงินจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ดังนั้นแม้ว่าการแต่งหน้าในช่วงทศวรรษ 1930

จะดูหรูหรา แต่ผู้คนมักไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ต่อมา กิจวัตรด้านความงามก็เริ่มนำไปใช้ได้จริงมากขึ้น โดยใช้ผลิตภัณฑ์น้อยลงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน การแต่งหน้าในยุค 30 แตกต่างอย่างมากจากทศวรรษก่อน อายแชโดว์เนื้อหนาถูกแทนที่ด้วยเฉดสีที่นุ่มนวลกว่า

ความเป็นผู้หญิงคือเป้าหมายด้วยการเน้นให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ฮอลลีวูดมีอิทธิพลอย่างมากในทศวรรษนี้ ดาราสวมสไตล์ที่หรูหราซึ่งผู้หญิงหลายคนต้องการสร้างขึ้นใหม่ ด้วยเหตุนี้ รองพื้นแพนเค้กที่ได้รับความนิยมสำหรับใช้กับนักแสดงจึงมีจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2480 สร้างความยินดีให้กับสาธารณชนเป็นอย่างมาก

นักแสดงหญิงยังมีอิทธิพลต่อกระแสความนิยมอย่างมากของการสักคิ้วแบบดินสอ โดยผู้หญิงบางคนถอนคิ้วออกทั้งหมดเพื่อดึงคิ้วที่สูงขึ้นกลับขึ้นมา ผู้คนยังเปลี่ยนเส้นริมฝีปากด้วย ดังนั้นริมฝีปากจึงดูยาวขึ้นและอวบอิ่มขึ้น โดยเลือกใช้เฉดสีต่างๆ เช่น สีน้ำตาลแดงและสีแดงเข้ม ทศวรรษ 1940

ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและมินิมอลแต่มีลิปสติกที่โดดเด่น ในอังกฤษในช่วงสงคราม ส่วนผสมในการแต่งหน้าขาดแคลน จึงมีการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ทดแทน เช่น ไม้ก๊อกที่ถูกเผาสำหรับมาสคาร่า และน้ำบีทรูทสำหรับลิปสติก

ต้องขอบคุณผลกระทบของการปันส่วนและการขาดแคลนผลิตภัณฑ์ การแต่งหน้าในช่วงปี 1940 จึงดูเป็นธรรมชาติมากและถูกแสงแดดเจิดจ้าด้วยการเติมริมฝีปากสีแดง ผู้หญิงในยุค 40 ได้รับการยกย่องจากการใช้ลิปสติก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มขวัญกำลังใจในขณะเดียวกัน

ก็รักษาความเป็นผู้หญิงเอาไว้ คิ้วได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มีความหนาปานกลาง ปัดหรือเขียนคิ้วเบาๆ การจับคู่สีเป็นที่นิยมมาก โดยคำแนะนำด้านความงามคือให้จับคู่สีบลัชออน ริมฝีปาก และเล็บให้เข้ากัน อายไลเนอร์ชนิดใดก็ตามที่ใช้ถูกทาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในช่วงปลายทศวรรษ อายไลเนอร์เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น และไม่ต่างจากสไตล์ที่ยังคงสวมใส่อยู่ในปัจจุบันจนเกินไป

 

สนับสนุนโดย    ทัวร์คาสิโนเวียดนาม

ดูดส้วม เป็นอีกหนึ่งการดูแลบ้าน

ดูดส้วมจำต้องทำบ่อยมากมากแค่ไหน หากว่ากลัวส้วมจะตันก็อย่าปล่อยให้เกิดขึ้น ควรหมั่นเรียกบริการดูดส้วม เพราะว่าบางบ้านบางทีอาจจะต้องทำทุกครึ่งปี บางบ้านอยู่นานมากจนลืมว่าเคยดูดส้วมครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ยังไม่เคยจำต้องดูดส้วมสักหนึ่งครั้ง มูลเหตุที่ส้วมเต็มนั้นมีด้วยกันดังต่อไปนี้

  1. ถังมีขนาดเล็กเกินความจำเป็น แต่คนที่พักอาศัยหรือเข้ามาใช้งานมากเกินไปไม่เหมาะสมกับขนาดถังเก็บ ทำให้ส้วมเต็มเร็ว
  1. อีกอย่างหนึ่งคือเกิดการั่วไหลของนำเข้าไปในถัง

 

ระบบบ่อเกรอะ บ่อซึม มีลักษณะเป็นบ่อคอนกรีต 2 ถัง บ่อแรกพวกเราจะเรียกว่า บ่อเกรอะ จะรับสิ่งสกปรกจากข้างในบ้านโดยตรง มีบทบาทเก็บกักสิ่งสกปรกต่างๆเพื่อกำเนิดขั้นตอนสลายตัวและก็นอนก้นตามธรรมชาติ กากสิ่งปฏิกูลจะนอนก้นไปอยู่ที่ตูดบ่อ

 ส่วนน้ำที่อยู่ข้างบนจะไหลลงสู่ บ่อซึม โดยน้ำที่ผ่านจากบ่อจะเบา ๆ แล้วซึมลงไปในดินรวมทั้งชั้นหินข้างล่างอย่างช้าๆถ้าหากทั้งคู่บ่อดำเนินการก้าวหน้า ทำให้บางบ้านอยู่มามากปีแล้วไม่ต้องดูดส้วมเลยก็ได้

แต่ว่าปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับระบบบ่อเขลอะบ่อซึมก็คือ สิ่งสกปรกในบ่อเขลอะสลายตัวไม่หมด น้ำในบ่อซึมไม่สามารถที่จะซึมผ่านเนื้อดินลงไปได้ เนื่องจากว่าที่พื้นที่ดินบริเวณนั้นเป็นดินชนิดดินเหนียว หรือมีนำใต้ดินสูงมากกระทั่งไหลเข้าไปในบ่อและทำให้ส้วมเต็มง่าย 

 

ขจัดปัญหาส้วมเต็มบ่อยมาก เพียงหันมาใช้ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป ด้วยว่าคือระบบที่รวมบ่อเขรอะรวมทั้งบ่อซึมไว้ภายในถังเดียวกัน น้ำที่ผ่านวิธีการในถังบรรเทาน้ำเสียจะมีความสะอาดพอเพียงที่จะปลดปล่อยลงสู่รางระบายน้ำสาธารณะได้ แทนการซึมลงสู่ดิน

 

ถังบำบัดรักษาน้ำเสียจำพวกนี้มีให้เลือกใช้งานอีกทั้งแบบไม่เพิ่มอากาศ รวมทั้งแบบเพิ่มอากาศ (Aerobic Bacteria) ซึ่งจะใช้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงแบคทีเรียเพื่อช่วยรีบปฏิกิริยาทางวิชาชีวเคมี ทำให้วิธีการเสื่อมสภาพสารอินทรีย์มีคุณภาพมากยิ่งกว่าระบบธรรมชาติ เหมาะกับใช้ในพื้นที่ชุมชนเมืองที่มีภาวะดินเป็นดินเหนียว น้ำซึมลงดินได้ยาก

 

แม้กระนั้น เพื่อต่ออายุการใช้แรงงานของถังจำพวกนี้ แล้วก็เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้กำเนิดขี้ตะกอนหลงเหลือมากจนเกินความจำเป็นกระทั่งเกินคราบเปื้อนฝังแน่นในถัง ก็เลยจำต้องดูดกากของเสียออกด้วยเหมือนกัน เฉลี่ยโดยประมาณ 3-5 ปี/ครั้ง


ดูดส้วม เป็นอีกหนึ่งการดูแลบ้าน รวมทั้งที่อยู่อาศัยของคุณ ถ้าหมั่นชำระล้างและก็ให้ความเอาใจใส่ นอกเหนือจาก  hoiana เวียดนาม    ที่จะช่วยทำให้บ้านน่าอยู่แล้ว ยังเสริมความถูกอนามัยที่ดีให้กับผู้อาศัยด้วย

 

5 เรื่องที่ต้องฉุกคิดก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องกรองน้ำ

 

5 เรื่องที่ต้องฉุกคิดก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องกรองน้ำ ร่างกายของผู้คนมีน้ำเป็นองค์ประกอบเป็นส่วนมาก การกินน้ำสะอาดในจำนวนที่เพียงพอก็เลยเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพร่างกาย ด้วยเทคโนโลยีที่ปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ รวมกับเทรนด์การรักสุขภาพที่มีมาโดยตลอดทำให้ของใหม่อย่าง “เครื่องกรองน้ำ”

ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา ด้วยราคา แบบ และก็จุดขายที่นานาประการ แล้วจะเลือกซื้อแบบไหนถึงจะดี ลองมองเคล็ดวิธีกล้วยๆ5 ข้อสำหรับการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำไว้ใช้ในบ้านเหมาะนี่

  1. แหล่งน้ำที่เอามากรอง เพราะว่าแต่ละบ้านนั้นใช้น้ำจากแหล่งที่แตกต่างกันได้ นี่คือความจริงที่ต้องพิจารณา ก่อนซื้อเครื่องกรองน้ำควรจะรู้ว่าบ้านเราเองนั้นนำน้ำมาใช้จากแหล่งใด บางบ้านเป็นน้ำประปาจากก๊อก, บางบ้านเป็นน้ำใต้ดิน หรือน้ำฝน เนื่องจากสารเจือปนจากน้ำในแต่ละที่มามีความต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น น้ำใต้ดินอาจมีจำนวนวัตถุเจือปนมากยิ่งกว่าประปา โดยเหตุนี้เครื่องกรองน้ำที่ใช้ก็เลยจำเป็นจะต้องมีสารกรองที่ใช้เพื่อขจัดสิ่งปลอมปนได้มากกว่า

 

  1. ชนิดของเครื่องกรองน้ำ ในตอนนี้ประเทศไทย มีเครื่องกรองน้ำที่เป็นที่ชื่นชอบมีอยู่ 3 ชนิดเช่น เครื่องกรองน้ำแบบ RO หรือ Reverse Osmosis, เครื่องกรองน้ำแบบ UV หรือ Ultra Violet รวมทั้งเครื่องกรองน้ำแบบ UF หรือ Ultra-filtration และควรศึกษารูปแบบการทำงานของเครื่องกรองน้ำแต่ละประเภทก่อนว่าเหมาะสมกับความต้องการ หรือบ้านของเราอย่างไรบ้าง

 

  1. อุปกรณ์ไส้กรองรวมทั้งสารกรอง สารที่ประยุกต์ใช้แล้วก็อุปกรณ์ไส้กรองเป็นอีกหนึ่งเหตุที่ควรจะนึกถึงเมื่อซื้อเครื่องกรองน้ำด้วยเหตุว่าสารที่ประยุกต์ใช้ในไส้กรองแต่ละประเภทช่วยคัดเลือกกรองสิ่งสกปรกรวมทั้งสารเจือปนแตกต่าง ได้แก่

 

ไส้กรองที่สร้างขึ้นจากโพลีเอธีเลน (PE) และก็โพลีไพลีน (PP) ช่วยแยกขี้ตะกอน โคลน ทรายและก็อนุภาคที่มีขนาดใหญ่กว่า 5-10 ไมครอน ออกมาจากน้ำ, ถ่านกัมมันต์รูปแบบเม็ดช่วยกำจัดคลอรีนที่หลงเหลือ ดับกลิ่นแล้วก็รสไม่ประสงค์, กำจัดเชื้อราและก็โลหะหนักนิดหน่อย, ผงคาร์บอนแบบเป็นเม็ดช่วยคุ้มครองป้องกันไม่ให้แบคทีเรียที่ถูกกรองทิ้งเจริญวัยอยู่ในเครื่องร่อน, หินซิลเวอร์ไลท์ช่วยกำจัดแบคทีเรียแล้วก็ช่วยปกป้องไม่ให้เชื้อโรคไปสู่ไส้กรอง

 

  1. มีมาตรฐานรับรอง แม้เครื่องกรองน้ำที่คุณเลือกจะมีราคาที่ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ สิ่งซึ่งสามารถประยุกต์ใช้พิเคราะห์สำหรับการเลือกซื้อบางทีอาจเป็นยี่ห้อเครื่องหมายจากหน่วยงานต่างๆที่รองรับมาตรฐานของเครื่องกรองน้ำนั้นๆเช่น ยี่ห้อเครื่องหมายของ NFS ที่พักสินค้า ของกิน น้ำรวมทั้งผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่ตรงตามมาตรฐานสากล

 

  1. การรับประกันเครื่องกรองน้ำ และก็บริการข้างหลังวิธีขาย เลือกเครื่องกรองน้ำที่มีการค้ำประกัน แล้วก็มีศูนย์บริการมากมายสำหรับซื้ออะไหล่ต่าง ๆ นอกเหนือจากนั้นยังควรจะมองหาแบรนด์ที่มีความน่าไว้ใจเพื่อความสบายสำหรับในการเปลี่ยนแปลงรวมทั้งซ่อมอะไหล่สำหรับเพื่อการใช้งานระยะยาว

 

 

สนับสนุนโดย    ปัญหาเกี่ยวกับหูตึง

อาการจุกอกเกิดจากสาเหตุอะไร

 

“อาการจุกอก” หรือ “Pleurisy” เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อมีการอักเสบในชั้นเยื่อบริเวณที่คลองลมหลักของปอด ซึ่งเรียกว่าเยื่อหุ้มปอดหรือ pleura มีสาเหตุมาจากการอักเสบของเยื่อหุ้มปอดที่ทำให้เกิดอาการปวดและหายใจลำบาก สาเหตุที่สำคัญสำหรับการเกิดจุกอกได้แก่

1.การติดเชื้อ: สาเหตุสำคัญที่สุดของจุกอกคือการติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบในเยื่อหุ้มปอด

2.การบาดเจ็บ: การบาดเจ็บที่กระทบกระเทือนบริเวณทรวงอกหรือหลังอาจทำให้เกิดการอักเสบในเยื่อหุ้มปอด

3.โรคระบบภูมิคุ้มกัน: บางโรคที่ทำให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันอัปเดต เช่น ไข้เลือดออก เสี่ยงต่อการเกิดจุกอก

4.สาเหตุอื่นๆ: รวมถึงมะเร็งในปอดที่ลุกลามไปยังเยื่อหุ้มปอด หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเลือด เช่น โรคซึมเศร้าหรือโรคภูมิแพ้

อาการของจุกอกสามารถรวมถึงปวดทรวงอกเมื่อหายใจหรือไปยังด้านที่เจ็บ หายใจลำบาก รู้สึกเหนื่อยง่าย ไข้ และอาจมีไอแห้ง บางครั้งอาจมีอาการเลือดออกของช่องทรวงอกด้วย การวินิจฉัยและการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดจุกอกและความรุนแรงของอาการของผู้ป่วย

การรักษาจุกอกจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคและความรุนแรงของอาการ แต่มักจะรวมถึงขั้นตอนดังนี้

1.การรักษาสาเหตุ: หากจุกอกเกิดขึ้นจากการติดเชื้อ อาจจะให้การรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะเฉพาะตัวที่เป็นประโยชน์ต่อเชื้อโรคนั้นๆ เช่น ปฏิชีวนะที่ทำหลายไวรัสหรือแบคทีเรีย

2.การควบคุมอาการ: ใช้ยาแก้ปวดและลดการอักเสบ เช่น ยาต้านอักเสบหรือผลิตภัณฑ์ช่วยละลายเสมหะ เพื่อช่วยลดอาการปวดและช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น

3.การพักผ่อน: การพักผ่อนเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายเร็วยืนสุขภาพขึ้นและช่วยในการฟื้นตัวจากโรค

4.การดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำมากพอเหมาะสมช่วยในการละลายเสมหะและช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น

5.การรักษาโรคร่วม: หากมีโรคร่วมอื่นๆ เช่น โรคภูมิแพ้ หรือโรคระบบภูมิคุ้มกัน การรักษาโรคร่วมนั้นมีความสำคัญเพื่อช่วยควบคุมอาการของจุกอก

6.การรักษาฉุกเฉิน: ในบางกรณีที่จุกอกมีระดับรุนแรงมาก อาจต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล เช่น การให้ยาแก้ปวดที่เข้มข้นหรือการรักษาอื่นๆ ตามความเหมาะสม

สำหรับการรักษาที่ถูกต้อง ควรพบแพทย์หรือผู้ให้การรักษาเพื่อให้คำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมต่อสภาพและอาการของผู้ป่วยแต่ละราย

 

การแก้ไขเบื้องต้นของอาการจุกอกสามารถทำได้ดังนี้

1.พักผ่อน: ให้ร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดมากขึ้น

2.รับประทานยาลดอาการปวด: ใช้ยาต้านการอักเสบ เช่น อะสไปริน หรือพาราเซตามอล เพื่อช่วยลดอาการปวดในระยะเบื้องต้น

3.การประคบเย็นหรือประคบอุ่น: การประคบเย็นหรืออุ่นบริเวณทรวงอกที่เจ็บ อาจช่วยลดอาการปวดและอักเสบ

4.ดื่มน้ำมากพอเหมาะ: การดื่มน้ำมากพอเหมาะสมช่วยในการละลายเสมหะและช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น

5.เฝ้าระวังอาการ: หากมีอาการที่รุนแรงขึ้น เช่น หายใจลำบากมากขึ้น หรือมีไข้สูง ควรพบแพทย์โดยเร็ว

การดูแลเบื้องต้นนี้อาจช่วยให้ลดอาการของจุกอกได้ในระยะเบื้องต้น แต่หากมีอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาเพิ่มเติม

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    Hoiana

ขั้นตอนการล้างหน้าให้ผิวใส ไร้สิว อย่างถูกวิธี

การล้างหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวหน้า เพื่อให้ผิวสุขภาพดี ไม่มีสิว และเป็นผิวใส คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อล้างหน้าให้ผิวใสได้อย่างถูกวิธี

1.เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับประเภทผิวของคุณ

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับประเภทผิวจะช่วยให้การล้างหน้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าคุณมีผิวมันควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการผลิตน้ำมัน เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญเป็นซอลิวอิตอนหรือกรีนที สำหรับผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เช่น น้ำมันจากพืชหรือฮยาลูโรนิค

2.ล้างหน้าอย่างอ่อนโยน

ไม่ควรใช้กำลังกายมากในการล้างหน้า เพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือสิวแพ้ง่ายขึ้น ควรใช้นิ้วกลางและนิ้วชี้ทำการล้างด้วยการเคลื่อนที่เป็นวงรอบเล็กๆ หรือทำการสบู่เบาๆ โดยล้างหน้าเป็นเวลาประมาณ 1-2 นาที

3.ใช้น้ำอุ่น

การใช้น้ำอุ่นจะช่วยให้น้ำมันและสิ่งสกปรกบนผิวหน้าละลายออกได้ดีขึ้น แต่อย่าให้น้ำร้อนมากเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวแห้งได้

4.ล้างหน้าสองครั้งต่อวัน

การล้างหน้าในเช้าและก่อนนอนจะช่วยให้ผิวหน้าของคุณสะอาดและป้องกันการอุดตันของตรวจสอบหรือฝุ่นในช่วงเวลาต่างๆ

5.หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง

หลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือเจลล้างหน้าที่มีสารเคมีเข้มข้นหรือหนักมากเพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือสิวเพิ่มขึ้น

6.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ

หากคุณมีปัญหาเฉพาะเรื่องผิวหน้า เช่น สิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบของสิว เช่น สารซัลไซลิก หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีแสงอสมาชิก เช่น น้ำครีมที่มีส่วนประกอบเป็นออกไซด์

7.เคลือบส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวหน้าหลังล้างหน้าเสร็จ

หลังจากล้างหน้าเสร็จสามารถใช้โทนเนอร์หรือครีมบำรุงผิวที่มีส่วนประกอบเป็นคอลลาเจนหรือสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นและสุขภาพดี

8.อย่าละเมิดขั้นตอนการล้างหน้า

การเมินขั้นตอนการล้างหน้าอาจทำให้สิวหรือปัญหาผิวหน้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรปฏิบัติตามขั้นตอนที่วิธีการล้างหน้าเสนอเพื่อผิวหน้าที่สุขภาพดีและใสไร้สิวอย่างเหมาะสม แต่ก่อนที่จะล้างหน้าควรที่จะเตรียมผิวเสียก่อน โดยการใช้โทนเนอร์

หลังการล้างหน้าอาจช่วยลดการขุ่นของริ้วรอยและปิดขนาดของรูขุมขน โดยเฉพาะถ้าคุณมีผิวมันหรือมีปัญหาเรื่องรูขุมขนที่ใหญ่

 นอกจากนี้ คุณยังควรทดลองใช้โฟมล้างหน้าก่อนการใช้งานโดยตั้งแต่สัปดาห์แรกๆ เพื่อให้คุณสามารถปรับใช้และดูผลการใช้งานได้ว่ามีประสิทธิภาพกับผิวของคุณหรือไม่ หากพบว่าไม่เหมาะสมคุณสามารถเปลี่ยนโฟมล้างหน้าได้ตามความเหมาะสมของผิวของคุณ

 การล้างหน้าให้ผิวใส ไร้สิว คือการที่คุณต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับผิวของคุณ และปฏิบัติการล้างหน้าอย่างอ่อนโยนและสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องผิวหน้าที่ซับซ้อนหรือไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร ควรปรึกษาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้า เช่น หมอผิวหน้า หรือ คนขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่เชี่ยวชาญ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาหูตึง

วัสดุที่ใช้ปูพื้นสามารถนำมาแทนไม้ได้ แต่ราคาไม่สูงจับต้องได้

หลายคนคงจะทราบนะว่าวัสดุอีกอย่างนึงที่เราจำเป็นจะต้องใช้ แทบจะทุกบ้านนั่นก็คือพื้น โดยบางบ้านก็ใช้เป็นพื้นขัดมันไม่ปูอะไรเลย บางบ้านก็ใช้เป็นพื้นขัดหยาบ ที่ส่วนใหญ่มักใช้กับโรงรถ หรืออาจจะเป็นหินเป็นกระเบื้องเซรามิกก็ได้เช่นกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงพื้นบ้าน ที่ราคาไม่แพงมาก โดยเราจะใช้วัสดุมาปูแทนไม้ แต่ว่าเราก็ไม่ได้พูดถึงพื้นไม้จริงนะเพราะว่ามันราคาสูงมากเราจะมาแนะนำกับพื้นไม้ที่สามารถใช้แทนไม้จริงได้ราคาถูกกว่าและสวยงาม

 วัสดุที่ใช้ปูพื้นสามารถนำมาแทนไม้ได้ แต่ราคาไม่สูงจับต้องได้ ได้แก่

1.พื้นลามิเนต

สำหรับพื้นลามิเนตก็คือแผ่นที่สามารถนำมาปูทับพื้นที่เราเตรียมเอาไว้ โดยส่วนใหญ่พื้นลามิเนตนี้จะทำออกมาในรูปแบบลายไม้ และตัวของมันเองก็ได้ทำการผลิตมาจากไม้จริง แต่ว่าจะเป็นส่วนที่เป็นเศษไม้หรือผงของไม้ โดยนำมาผลิตเข้ากับวัสดุอื่นๆ จากนั้นก็ทำการขึ้นรูปแบบให้เป็นแผ่น แล้วแต่ขนาดความหนา ตามบล็อกของมัน โดยจะมีตั้งแต่ 4 มิน 8 มิน ขึ้นไป ซึ่งการออกแบบนั้นจะทำให้ลายมีสีสันหรือรูปแบบเหมือนกับเนื้อไม้จริงๆ

2.พื้นเอ็นจิเนียร์วูด

ถือว่าเป็นไม้เหมือนกันแต่ดีกว่าลามิเนตหน่อยนึง ถือได้ว่าเป็นไม้ที่นำมาอัดแล้วทำม้เป็นชิ้นโดยให้เราเอามาเข้าร่องในรูปแบบของไม้ปาเก้ แต่จะออกมาดูสวยกว่าลามิเนต ซึ่งไม่ใช่ไม้เทียมที่ทำจากพีวีซีนะ แต่ทำมาจากไม้จริงๆ แต่ราคาจะสูงกว่าแต่ให้ความรู้สึกได้เหมือนไม้จริง

3.พื้นกระเบื้องยาง

โดยมันจะมีลักษณะที่เป็นกระเบื้องยางแต่ลายเหมือนไม้ โดยเขามีการผลิตออกมาเหมือนแผ่นไม้เทียมเลย และเป็นลายไม้สวยมากเช่นกัน เวลาที่นำมาใช้สามารถที่จะปูโดยใช้กาวก็ได้ ไม่ใช้กาวก็ได้ เรียกได้ว่าแทบจะทำงานเหมือนลามิเนต หรือไม้เทียมเลยก็ว่าได้ นี่ก็คือกระเบื้องยางลายไม้

 

ข้อดีข้อเสียงและราคา มีดังนี้

1.ติดตั้งง่าย

ทุกอย่างสามารถที่จะติดตั้งง่ายเหมือนกันเลย และสามารถที่จะปูวันเดียวก็เสร็จเลย โดยสามารถเนียนสวยด้วยนะ โดยสามารถวางทับไปเลยบนพื้นที่เรียบถ้าคุณต้องการวางทับบนพื้นที่เป็นกระเบื้องจะต้องปรับยาแนวใหม่ให้เสมอกระเบื้องไม่งั้นอาจจะวางไม่ได้มีปัญหาได้เช่นกัน

  1. กันน้ำได้ดี

กระเบื้องที่ทำจากอย่างนี้ สามารถโดนน้ำได้หรือถ้าน้ำหกก็ไม่ต้องรีบเช็คในทันทีเพราะไม่ก่อให้เกิดอะไรกับไม้ของคุณนั่นเท่ากับว่ามันทนน้ำ ทนฝนนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    โรงแรม Hoiana Casino

วิธีแก้ปัญหาฟันเหลือง ช่วยลดฟันเหลืองด้วยวิธีธรรมชาติ

 ฟันของเราเมื่อทานอะไรไปก็อาจจะส่งผลทำให้กลายเป็นสีเหลืองได้ อาหารบางชนิดก็มีกรดที่ทำให้ฟันของเราเหลืองได้ ถึงแม้ว่าเราจะแปรงฟันทุกวันก็ตามแต่ว่าฟันของเราก็อาจจะเปลี่ยนสีได้ง่ายเช่นกัน การทำให้ฟันดูขาวอยู่เสมอถือว่าเป็นเรื่องยาก ยิ่งถ้าเราเป็นคนที่ชอบดื่มชา กาแฟ อยู่แล้วยิ่งส่งผลให้เหลืองมากด้วย วันนี้เรามีวิธีแนะนำเกี่ยวกับการลดปัญหาฟังเหลือง ให้กลับมาขาวด้วยวิธีธรรมชาติมาฝาก

วิธีแก้ปัญหาฟันเหลือง ช่วยลดฟันเหลืองด้วยวิธีธรรมชาติ

1.รับประทานผักหรือผลไม้บางอย่างเพื่อช่วย

ผักหรือผลไม้บางอย่างมีสารที่ช่วยในเรื่องของการขัดฟันของเรา ดังนั้นการทานหรือเคี้ยวเข้าไปก็จะส่งผลให้ฟันของเราขาวขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่น แอปเปิ้ล แครอท เป็นต้น โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่ทำมาตั้งแต่โบราณ และก็ยังช่วยได้จริง เป็นวิธีธรรมชาติไม่ก่อให้ฟันของเราบางลงด้วยนะ

 

2.หาสมุนไพรจากธรรมชาติมาช่วย

การขัดฟันของเรานั้นสามารถนำสมุนไพรมาช่วยให้ขาวขึ้นได้ ดังคนสมัยก่อนที่ใช้ข่อยเอามาท้เป็นแปรงสีฟัน โดยสามารถทให้ฟันของเราขาว สะอาดได้ดี สารธรรมชาติที่นำมาใช้ได้ ก็เช่น เกลือ มะนาว กล้วย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นสารที่ได้จากธรรมชาติแท้และก็ใช้มานานมาก ยอมรับว่ามันช่วยได้จริง ถ้าหากว่าคุณต้องการสมุนไพรจากธรรมชาติมาใช้เราแนะนำเลย ใช้ดีจริง ขาวขึ้นจริง

 

3.ไปขูดหินปูน

การขูดหินปูนบ่อยๆก็ไม่ใช่ว่าจะดีนะ แต่การไม่ขูดเลยมันไม่ดียิ่งกว่า ระยะเวลาในการขูดหินปูนสามารถทำได้ทุก 6 เดือน ไม่ควรบ่อยกว่านี้หรือก็ไม่ควรปล่อยนานกว่านี้ สามารถเข้าไปดูแลฟันได้บ่อยครั้ง ไปตรวจฟัน ไปขูดหินปูน ดูแลฟันของคุณคราบต่างๆที่อยู่ติดกับฟันสามารถหลุดออกได้ง่าย และที่สำคัญคุณหมอจะฟลูออไรด์ให้คุณทำให้ฟันไม่ผุง่ายอีกด้วย

 

4.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารฟอกฟัน

สำหรับในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ผสมสาร เอาไว้ฟอกฟันด้วยดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีหรือเลือกยาสีฟันที่มีส่วนผสมช่วยให้ฟันขาวขึ้นขาวขึ้นจะเป็นตัวเลือกหรือเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับฟันของคุณ ถึงแม้ว่าการแปรงฟันจะไม่ทำให้ฟันขาวขึ้นเลยทำตามแต่ถ้ามีส่วนผสมของสารฟอกฟันแล้ว เมื่อใช้เป็นเวลานานก็จะทำให้ฟันของคุณขาวขึ้นมาได้

 

5.การเลือกใช้น้ำมะนาว

การเลือกใช้น้ำมะนาวควรผสมกับน้ำเปล่าเพื่อที่จะลดอาการเสียวฟันแต่ทำให้ฟันขาวขึ้นได้เพราะถ้าหากคุณใช้น้ำมะนาวล้วนบ่อยครั้งอาจจะส่งผลทำให้ฟันของคุณเสียวได้นะ ทางที่ดีใช้น้ำมะนาวผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วนเท่าๆกันเพื่อเป็นการทำให้ฟันของคุณแข็งแรงและขาว

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังซื้อมาใส่เองได้ไหม

ดูแลเครื่องเรือน อย่างไร หลังผ่านพ้นน้ำท่วม

– เครื่องเรือน ทำมาจากไม้

จุดเด่นของเครื่องเรือนที่ทำมาจากไม้ โดนน้ำได้ ซึ่งจะไม่มีผลเสียหายมากสักเท่าไรนัก แม้กระนั้น ความหมายคือว่าเป็นไม้ล้วน ๆ อีกทั้งแท่ง ไม่ใช้ไม้อัด แม้เป็นไม้อัดหละก็ แน่ ๆ ว่า ถ้าเกิดโดนอุทกภัยหนัก ๆ เครื่องเรือนชิ้นนั้น ก็จะไม่อาจจะนำกลับมาใช้ได้อีกเลย เหตุเพราะจะมีการพอง ขยายตัว

ถ้าหากแช่น้ำนาน ๆ ก็จะยุ่ยเสียหายไปในทันที แต่ว่าถ้าเป็นไม้เนื้อแข็ง ไม่ต้องกังวลไป แค่เพียงคุณเอามาตั้งไว้ให้แห้ง แต่ว่ามีข้อต่อรองว่า ห้ามตั้งผึ่งแดด แค่เพียงตั้งเอาไว้ในที่ร่ม รอคอยให้มันแห้ง ระบายความชุ่มชื้นออกให้หมดไปก่อน

ถ้าแน่ใจว่า  ฮอยอาน่า     ความชุ่มชื้นออกไปในระดับหนึ่งแล้ว ก็สามารถนำไปผึ่งแดดได้ คุณอาจจะลงสีหรือแล็กเกอร์เพิ่มเติมอีก เพื่อความเงาสวยขึ้นก็ได้

– เครื่องเรือน ทำมาจากเหล็ก

จุดเด่นของเหล็ก แน่ ๆ ว่า แข็งแรงกว่าไม้ แม้กระนั้นถ้าเกิดเหล็กชิ้นนั้น มิได้เป็นเหล็กที่ปราศจากสนิม ได้แก่ สแตนเลส อลูมิเนียม แม้มีความชื้น หรือโดนน้ำนองเป็นระยะเวลานาน จะก่อให้กำเนิดสนิม แนวทางแก้ เพียงคุณขัดล้างชำระล้างให้ดี อย่าให้มีรอยเปื้อนค้างอยู่ แล้วทิ้งเอาไว้ให้แห้ง

จะผึ่งแดดด้วยก็จะเป็นเรื่องดี เนื่องจากว่าอุณหภูมิของแดด มิได้ส่งผลเสียกับเหล็ก เมื่อแห้งสนิทก็ดี ถ้าหากเป็นเหล็กที่เป็นสนิม

ก็ให้กระทำขัดสนิมออกก่อน คุณอาจไปซื้อน้ำยาขัดสนิมมาสักชุด เพื่อทุนแรงขัดถูกได้ดีมากยิ่งกว่า รวมทั้งคุ้มครองป้องกันการเกิดสนิมอีกขั้น โดยการทาสีทับ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เครื่องเรือนคืนกลับมาแล้วหละ บางทีอาจมองใหม่กว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ

– เครื่องเรือน ทำมาจากหินหรือปูน

หินหรือปูน ไม่กลัวน้ำ และแดด ทนทานมาก ๆ ต่อสภาพแวดล้อม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกแช่ไว้ในน้ำนาน ๆ ก็จะทำให้กำเนิดคราบเปื้อนเลอะเทอะ ซึ่งมีความสกปรกได้ คุณแค่เพียงใช้น้ำยาที่ใช้เพื่อการทำความสะอาด หรือผงซักผ้าก็ได้ใช้แปลงที่มีขนแข็งขัดให้สะอาด แค่เพียงนี้ก็ใช้การได้แล้ว

– เครื่องเรือน มีส่วนของใยนุ่นผสม

เครื่องเรือนชนิดดังที่กล่าวมาแล้วนี้ มักเป็นพวกโซฟา เตียง ด้วยเหตุว่าอยากความละมุนละไมสำหรับในการสัมผัส อุปกรณ์ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ถ้าหากโดนน้ำนองเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจจะส่งผลให้กำเนิดเชื้อโรคสะสมด้านใน แล้วก็มีกลิ่นเหม็นอับ ถ้าเกิดเป็นเครื่องเรือน

ซึ่งสามารถแกะมาชำระล้างได้ ท่านก็สามารถนำออกมาล้างน้ำชำระล้าง แล้วก็ตากให้แห้งสนิท แม้กระนั้นถ้าเป็นแบบสำเร็จรูป ที่ไม่สามารถที่จะแกะมาได้ ถ้าไม่ตรากตรำนัก ก็เสนอแนะให้ซื้อใหม่จะดีมากกว่า แต่ว่าถ้ายังไม่พร้อมที่จะซื้อ ก็บางทีอาจจำเป็นต้องใช้ผ้ามาหุ้มไว้อีกชั้น เพื่อปกป้องเชื้อโรคในระดับหนึ่ง เมื่อพร้อมก็ค่อยซื้อใหม่