ดูแลตนเองอย่างไรให้สุขภาพจิตดีอยู่เสมอ

สุขภาพจิตดีอยู่เสมอ ในสภาวะที่โลกของเรากำลังย่ำแย่อยู่ทุกวันนี้ ทำให้หลาย ๆ คนมักที่จะมีสภาวะจิตใจที่ไม่ค่อยจะดี ซึ่งรู้หรือไม่ว่านอกจากการที่เราจะมีสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยดี การที่เรามีสุขภาพจิตที่ไม่ดีไปด้วย ก็อาจเป็นหนึ่งมีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเราได้เช่นกัน ยิ่งถ้าใครที่มีความเครียดเยอะ ๆ หรือเครียดบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม จนส่งผลกระทบไปยังสุขภาพจิตของเรา

จะยิ่งส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้เรานั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้นั่นเอง ดังนั้น ในสมัยปัจจุบันนี้ การดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม

ซึ่งปกติแล้วเราจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่มักที่จะมองหากิจกรรมเพื่อช่วยบรรเทาความเครียดทำให้ตนเองนั้นรู้สึกผ่อนคลาย รวมไปถึงการบริหารสุขภาพจิตของตนเองให้ดีอยู่เสมอ และในสมัยนี้การบริหารสุขภาพจิตนั้นก็สามารถทำได้หลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย

 

การดูหนัง ฟังเพลง รวมไปถึงการเลือกรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน ฉะนั้น สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการดูแลสุขภาพจิตของตนเอง เพื่อเป็นตัวช่วยให้การใช้ชีวิตนั้นง่าย และราบรื่นมากยิ่งขึ้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพจิต หรือการบริหารสุขภาพจิตด้วยตนเองง่าย ๆ จะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

 

  • การออกไปพบปะกับเพื่อนอยู่เสมอ

แน่นอนว่าการที่เราได้ออกไปพูดคุย หรือพบปะกับเพื่อน ๆ อยู่บ่อย ๆ จะยิ่งทำให้เรานั้นมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้ เพราะปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักที่จะหาที่ระบาย หรือที่ที่คิดว่ามีความสบายใจที่จะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟังได้ อีกทั้งยังได้ไปปาร์ตี้ สังสรรค์ ระบายความรู้สึกต่าง ๆ เพื่อที่จะได้ทำให้ตนเองนั้นรู้สึกสบายใจ และผ่อนคลายได้นั่นเอง 

 

  • การพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

ถึงแม้ว่าเราจะมีเรื่องให้เครียด หรือมีเรื่องที่ต้องทำให้ปวดหัวอยู่ก็ตาม แต่เราก็ไม่ควรที่หยุดพัฒนาตนเอง ถึงแม้เราจะหกล้มมามากแค่ไหนก็ตาม การที่เราพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ทำให้ตนเองไปถึงเป้าหมายในชีวิตได้ ก็จะยิ่งทำให้เรานั้นมีความสุขกับการใช้ชีวิตได้ อีกทั้งยังเป็นการบริหารสุขภาพจิตของเราให้ดีอยู่เสมออีกด้วย 

 

  • การดูแลร่างกายให้ดี

เพราะการมีสุขภาพร่างกายที่ดีจากภายในสู่ภายนอก ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมอข้าม เพราะหากเรามีร่างกายที่ดีและแข็งแรง ก็จะส่งผลดีไปยังสุขภาพจิตของเราอีกด้วย ดังนั้น ทางที่ดีเราควรที่จะรีบหันมาดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกในการบริหารสุขภาพจิตให้ดีอยู่เสมอ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย. เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

3 ผักที่ช่วยลดริ้วรอยได้

ผักที่ช่วยลดริ้วรอยได้ สมัยปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ หนุ่มๆสาวๆส่วนใหญ่มักที่จะมองหาวิธีการกำจัดริ้วรอยบนใบหน้าของตนเอง

รวมไปถึงการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราจะกำจัดริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้าหรือตามร่างกายของเรานั้นก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ การดื่มน้ำเยอะๆ รวมไปถึงการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เสมอ

ซึ่งสาว ๆ ส่วนใหญ่อาจจะมองว่าการที่เราดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีรวมไปถึง การดูแลบำรุงผิวพรรณของตนเองให้สวยเปล่งปลั่งกระจ่างใสไร้ริ้วรอย จะถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและช่วยเพิ่มบุคลิกภาพในการใช้ชีวิตของตนเองได้

โดยปกติแล้วในสมัยปัจจุบันนี้สาวๆส่วนใหญ่นั้นมักที่จะเลือกวิธีการทานผลิตภัณฑ์หรือมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงร่างกายหรือบำรุงผิวพรรณของตนเองให้ไม่มีริ้วรอย ซึ่งก็ถือว่ามีความเสี่ยงมากๆ ที่จะทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ

ฉะนั้นสำหรับใครที่อยากกำจัดริ้วรอยบนใบหน้าหรือตามร่างกาย วันนี้เราก็จะมาแนะนำผักที่มีส่วนช่วยในการลดริ้วรอยได้ รับรองได้เลยว่าหากทานเป็นประจำนั้นจะยิ่งทำให้เรามีผิวที่สวยไร้ริ้วรอย จะมีผักชนิดไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • บล็อกโคลี่

เป็นหนึ่งในผักที่เราสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูมากๆอีกทั้งยังเป็นพรรคที่คนส่วนใหญ่นั้นชื่นชอบการทานกันเป็นอย่างมาก รู้หรือไม่ว่าบล็อกโคลี่นั้นเป็นหนึ่งในผักที่มีส่วนช่วยในการลดริ้วรอยและมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยชัลโฟราเฟน ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ จึงมีส่วนช่วยในการต้านการอักเสบ และช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าของเราได้เป็นอย่างดี

  • มะเขือเทศ

แน่นอนว่ามะเขือเทศนั้นเป็นหนึ่งในผักที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวของเราโดยตรงเนื่องจากอุดมไปด้วยรู้ทีม และไลโคปีน ที่มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ ปกป้องผิวจากความเสียหาย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวช่วยต้านการเกิดริ้วรอย และที่สำคัญมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้แก่ร่างกายจึงทำให้เรานั้น มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นได้อีกทั้งยังลดริ้วรอยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

  • ผักใบเขียว

เนื่องจากผักใบเขียว เป็นพรรคที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าสาวๆส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชื่นชอบการทานผักกันสักเท่าไหร่ แต่สำหรับใครที่อยากบำรุงสุขภาพผิวให้ดีและลดริ้วรอยการทานผักใบเขียวเป็นประจำนั้น นอกจากจะมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดริ้วรอยแล้วยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการขับถ่ายทำให้เรานั้นมีรูปร่างที่ดีได้อีกด้วย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

3 ปัญหาสุขภาพที่เราควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ

เราควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ ในปัจจุบันนี้กาแฟถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่หนุ่มสาววัยเรียนวัยทำงานนิยมดื่มกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากในกาแฟนั้น จะอุดมไปด้วยสารคาเฟอีนซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้ร่างกายของเราตื่นตัว

และ สดชื่นขึ้นได้ เพราะถึงแม้ว่ากาแฟจะเป็นเครื่องดื่มที่ร่างกายและหลายคนนั้นขาดไม่ได้แต่รู้หรือไม่ว่ากาแฟหากเราดื่มมากๆก็อาจให้โทษแก่ร่างกายของเราได้เช่นกัน ยิ่งถ้าใครที่มีปัญหาสุขภาพร่างกายไม่ค่อยจะดีการดื่มกาแฟเยอะก็อาจทำให้อาการดังกล่าวนั้นกำเริบขึ้นมาได้หรืออาจทำให้อาการที่เป็นอยู่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นทางที่ดีเราควรที่จะเลือกดื่มในปริมาณที่เหมาะสมไม่ควรเยอะจนเกินไปหรือถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้อาการที่เราเป็นอยู่นั้นรุนแรงมากยิ่งขึ้นหรือ ไม่ให้ส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเรา

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าปัญหาสุขภาพที่เราเป็นอยู่นั้นควรที่จะหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหรือไม่วันนี้เรา  เครื่องช่วยฟังราคาถูก    ก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีปัญหาสุขภาพไหนกันบ้าง ที่หากเกิดขึ้นแล้วเราควรที่จะหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่เราควรดื่มเป็นประจำก็ตาม ไปดูกันเลย

  • โรคนอนไม่หลับ

สำหรับใครที่เป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรังหรือมีอาการนอนไม่หลับอยู่บ่อยๆ หากเป็นไปได้ควรที่จะหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เนื่องจากในกาแฟนั้นจะมีสารคาเฟอีนซึ่งหลายคนก็ทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าเป็นสารที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของร่างกายทำให้ร่างกายของเราตื่นตัว ยิ่งถ้าใครเป็นโรคนอนไม่หลับ ยิ่งควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟเพราะจะยิ่งทำให้โรคนี้รุนแรงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

  • โรคกระดูกพรุน

เป็นหนึ่งในโรคที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ เสี่ยงต่อการเป็นกันเยอะมากๆ เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายของเราไม่ค่อยได้รับการออกกำลังกายหรือได้รับแคลเซียมได้ไม่เพียงพอจึงทำให้กระดูกของเราอ่อนแอจนเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนนั่นเอง ดังนั้นสำหรับใครที่ เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนควรที่จะหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เนื่องจากสารคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะทำการขับแคลเซียมในร่างกายของเราออกมา และอาจทำให้กระดูกของเราได้รับแคลเซียมได้ไม่เพียงพอนั่นเอง

  • โรคเบาหวาน

เป็นอีกหนึ่งในโรคที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่หรือ คนส่วนใหญ่เสี่ยงต่อการเป็นกันเยอะมากๆเพราะโรคนี้เรียกได้ว่าเป็นโรคที่ฮิตมากๆ และเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ง่ายมากๆอีกด้วย สำหรับใครที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานควรที่จะหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟอย่างเด็ดขาด เนื่องจากกาแฟจะมีฤทธิ์ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมน ซึ่งอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเรานั้นยิ่งพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนอาจทำให้อาการของโรคนั้นรุนแรงมากยิ่งขึ้น

3 เทคนิคการลดอาการปวดประจำเดือนง่ายๆ

เทคนิคการลดอาการปวดประจำเดือน เป็นหนึ่งในอาการที่สาว ๆ ทุกคนนั้นจะต้องพบเจอในแต่ละเดือนซึ่งเป็นอาการที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งตอนนี้เกิดขึ้นได้จากการที่มดลูกของเรา

เกิดการหดตัวหรือเกิดการบีบตัวมากๆจนส่งผลให้เรามีอาการปวดนั่นเอง ซึ่งเชื่อว่าสาวๆส่วนใหญ่นั้นมักที่จะพบเจอกันอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่เป็นประจำเดือน มาแบบปกติ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เรามีอาการปวดประจำเดือนนั้นหลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว

อาการปวดประจำเดือนเป็นหนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นปกติในแต่ละเดือนของผู้หญิงเนื่องจากกล้ามเนื้อหรือมดลูกนั้นเกิดการหดตัว ซึ่งในสมัยนี้ สาวๆส่วนใหญ่มักที่จะมองหาวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้หรือมองหาวิธีการลดอาการปวดประจำเดือน เพราะอาจจะมองว่าอาการปวดประจำเดือนในแต่ละเดือนนั้นเป็นอาการปวดที่ทรมานจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต

ฉะนั้นสำหรับใครที่มีปัญหา อาการปวดประจำเดือน วันนี้เราก็จะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆในการลดอาการปวดประจำเดือน ซึ่งสำหรับสาวๆคนไหนที่กำลังมีปัญหา การทำวิธีดังกล่าวเป็นประจำ จะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้และทำให้เรานั้นใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • การนวดท้อง

สาวๆหลายคนอาจจะมองว่าหากเราเมียการปวดประจำเดือนแล้วยิ่งลงไปนวดบริเวณท้องจะยิ่งทำให้อาการปวดนั้นรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การนวดบริเวณหน้าท้องหรือบริเวณที่เรามีอาการปวดนั้นจะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเรานวดโดนบริเวณจุดที่รู้สึกปวดมากๆอาการก็จะยิ่งทุเลาลงได้

  • การประคบร้อน

วิธีนี้เป็นวิธีที่สาวๆส่วนใหญ่นั้นไม่ ยมทำกันเมื่อมีอาการปวดประจำเดือนซึ่งหลายๆคนอาจจะคุ้นเคยวิธีนี้กันอยู่แล้ว ซึ่งการประคบร้อน เป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนสำหรับสาวๆได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ได้ผลน้อยกว่าการรับประทานยา แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผล และเป็นวิธีที่สาวๆส่วนใหญ่นั้นนิยมทำ เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีนั่นเอง

  • การหายใจลดปอด

หลายคนอาจจะมองว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้จริงหรือ หรือมีความเกี่ยวข้องกับการลดอาการปวดประจำเดือนได้อย่างไร ซึ่งการหายใจลดปอด เป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี เพราะการที่เราหายใจอย่างถูกวิธีนั้นจะทำให้ร่างกายของเราหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ที่มีฤทธิ์ในการต้านการเจ็บปวดได้ ฉะนั้นหากเราเลือกวิธีการหายใจให้ถูกวิธีจะถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังฟรี

รู้หรือไม่ น้ำมะนาวช่วยป้องกันโรคได้

มะนาว เป็นหนึ่งในผลไม้ตตระกูลส้มที่เรียกได้ว่ามีประโยชนืเป็นอย่างมาก เพราะนอนกจากคนส่วนใหญ่จะนำมะนาวไปประกอบอาหารเนื่องจากมะนาวจะมีรสชาติที่เปรี้ยวนั่นเอง รู้หรือไม่ว่านอกจากคนส่วนใหญ่มักที่จะนำมะนาวปประกอบอาหาร

น้ำมะนาวช่วยป้องกันโรคได้ หรือนำไปใส่ในเมนูอาหารต่าง ๆ แล้ว มะนาวยังเป็นหนึ่งในผลไม้ที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์ในการรักาโรคได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เนื่องจากในมะนาวนั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชนื และมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย คนส่วนใหญ่จึงมักนำมารักษาโรค หรือนำมารักษาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหวัด ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นบ่อย แต่ก็สามารถรักาได้น้ำมะนาวนั่นเอง อย่างไรก็ตาม มะนาวนั้นไม่เพียงแค่นำมาประกอบอาหารได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า แท้ที่จริงแล้วมะนาวจะสามารถช่วยรักษาโรคร้ายต่าง ๆ อะไรได้บ้าง ไปดูกันเลย 

  • มะนาวช่วยรักษาโรคนิ่วในไตได้

โรคนิ่วในไต เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้หลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราเลือกรับประทานอาหาร หรือแม้แต่การใช้ชีวิตในประจำวันเองก็ตาม  ดังนั้น หากใครที่ได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วในไต แนะนำให้เลือกดื่มน้ำมะนาวเยอะ ๆ เนื่องจากน้ำมะนาวนั้นจะอุดมไปด้วยกรดซิตริกที่สูงมาก ๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มไซเตรทในปัสสาวะได้ เพราะคนที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่อาจเป็นไปได้ว่ามีปริมาณของไซเตรทในปัสสาวะที่ไม่เพียงพอนั่นเอง ดังนั้น หากดื่มน้ำมะนาวบ่อย ๆ จะสามารถช่วยป้องกันโรคนิ่วในไตได้อย่างแน่นอน 

  • มะนาวช่วยป้องกันโรคเก๊าท์

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้จากการที่เราทานไก่มากเกินไป ซึ่งรู้หรือไม่ว่าโรคนี้หลายคนมองว่าไม่ได้เป็นโรคอันตรายแต่เพียงอย่างใด แต่หากปล่อยไว้ไม่เข้ารับการรักษาอาการก้อานรุ่นแรงมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้ ดังนั้น รู้หรือไม่ว่าน้ำมะนาวถือเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการนี้ได้ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรักษาได้ แต่อย่างน้อยก็ยังมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการ 

  • มะนาวช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ใสคามเป็นจริงนั้นน้ำมะนาวเป็นหนึ่งในยารักษาโรคชั้นดีอย่างโรคเบาหวาน เนื่องจากมะนาวนั้นสามารถรักษาโรคเบาหวานได้โดยตรง ดังนั้น หากเราทานมะนาว หรือเครื่องดื่มที่อถดมไปด้วยมะนาวโดยเฉพาะขอบอกเลยว่า จะสามารถช่วยป้องกัน และช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดีนั่นเอง   

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก

รู้หรือไม่ออกกำลังกายผิดจะยิ่งทำให้เราดูแก่ง่าย

ออกกำลังกายผิดจะยิ่งทำให้เราดูแก่ง่าย ปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายจะได้รับความนิยมมากขนาดไหนก็ตาม หรือจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากแค่ไหนก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่า หากเราออกกำลังกายแบบผิดๆ

นอกจากจะทำให้การออกกำลังกายนั้นไม่ได้ประสิทธิภาพแล้วยังอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับผลกระทบตามมาอีกด้วย เพราะถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมองว่าการออกกำลังกายเป็นประจำนั้น

จะสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ ช่วยทำให้ผิวพรรณของเรา เปล่งปลั่ง แลดูสดใสมากยิ่งขึ้น หรือมีส่วนช่วยในการทำให้เหล่านั้นดูอ่อนกว่าวัยได้ แต่รู้หรือไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วคนส่วนใหญ่มักพี่จะออกกำลังกายแบบผิดๆ

จนทำให้การออกกำลังกายนั้นไม่เป็นผลและไม่มีประสิทธิภาพที่ดีต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายที่ดีและได้มีประสิทธิภาพนั่นคือการออกกำลังกายที่เหมาะสมและถูกต้อง

ฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า การที่เราออกกำลังกายแบบผิดๆนั้น  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน   จะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

1.การเล่นคาร์ดิโอมากเกินไป

ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายในรูปแบบนี้จะได้รับความนิยมและมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากแค่ไหนก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าหากเราเล่นมากเกินไปนั่นก็อาจทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบได้ เพราะการที่เราออกกำลังกายในรูปแบบนี้มากเกินไปจะทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายของเรานั้นทำงานหนักเกินไป ทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และมีการทำลายเซลล์ต่างๆได้ ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่มวลกล้ามเนื้อของเราถูกเผาผลาญไป จะทำให้ผิวพรรณของเรานั้นดูไม่สดใส และดูไม่เเต่งตึงอย่างที่คุณคิด

2.การใช้เครื่องออกกำลังกายมากเกินไป

หลายคนมองว่าการที่เราใช้เครื่องออกกำลังกายจะยิ่งทำให้การออกกำลังกายนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การใช้เครื่องออกกำลังกายบางประเภทนั้นก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายของเราเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องกำลังกายที่ไม่ได้เซฟข้อเข่า ยิ่งถ้าเราใช้เครื่องออกกำลังกายมากเกินไปนั้นนอกจากจะทำให้การออกกำลังกายไม่เป็นผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังอาจส่งผลให้ระบบเผาบ้านของเราพังได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าก็จะยิ่งทำให้ ผิวพรรณของเราดูไม่เปลี่ยนแปลง ดูไม่อิ่มน้ำ และอาจทำให้ผิวของเรานั้นดูเหี่ยวย่นอีกด้วย

3.หักโหมกับการเล่นเวทมากเกินไป

ถึงแม้ว่าการเล่นเวทจะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดีให้แก่ร่างกายได้ แต่รู้หรือไม่ว่าหากเราเล่นมากเกินไปก็อาจทำให้การเล่นเวทนั้นไม่มีประสิทธิภาพต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังเริ่มเล่นใหม่ๆ ซึ่งหากเราไปหักโหมมากเกินไป จะทำให้ร่างกายของเรานั้นดึงพลังงานมาใช้มากเกินไป จนส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆในร่างกายได้นั่นเอง

3 อาหารช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ

อาหารช่วยบรรเทาอาการปวด เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มักที่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการออกกำลังกาย

ซึ่งในช่วงแรกนั้น กล้ามเนื้อของเราจะรู้สึกปวด เนื่องจากร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวหรือไม่ได้ทำการออกกำลังกายนาน โดยปกติแล้วหากคนเรามีอาการปวดกล้ามเนื้อ ก็จะรู้สึกลุกก็โอย นั่งก็โอย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่หลายคนหนักใจกันเป็นอย่างมาก รู้หรือไม่ว่าในสมัยปัจจุบันนี้ การบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อสามารถแก้ ได้หลากหลายวิธีมากๆ

เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็กำลังมองหาวิธีการที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ เพื่อให้ร่างกายนั้นกลับมาใช้งานได้อย่างปกติ ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการแก้อาการปวดกล้ามเนื้อ วันนี้เราก็จะมาแนะ อาหารที่มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ

ขอบอกเลยว่าหากเราทานเป็นประจำนั้นจะช่วยบรรเทาอาการปวด และช่วยให้กล้ามเนื้อของเรายืดหยุ่นได้ดีพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาอีกด้วย จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • น้ำมะพร้าว

เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่หลายๆคนนั้นชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก นอกจากจะมีรสชาติที่หวานจากธรรมชาติแล้ว รู้หรือไม่ว่าน้ำมะพร้าวนั้นยังมีประโยชน์ดีๆต่อร่างกายของเราอีกด้วย เรียกได้ว่ามีประโยชน์สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายเลยก็ว่าได้ เพราะน้ำมะพร้าวนั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์เช่น แร่ธาตุ แมกนิเซียม โซเดียม และโพเทสเซียม ซึ่งสารอาหารต่างๆเหล่านี้ล้วนแต่มีความสำคัญและจำเป็นต่อกล้ามเนื้อของเรา สำหรับใครที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้ออักเสบบ่อยๆ การดื่มน้ำมะพร้าวเป็นประจำนั้นจะช่วยบรรเทาอาการได้ดีอย่างแน่นอน

  • สตรอเบอรี่

หลายคนอาจจะมองว่าผลไม้ชนิดนี้เป็นผลไม้ที่ธรรมดาชนิดหนึ่ง แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยถูกปาก ที่ได้หลายคนชอบทานกันแล้ว สตรอเบอร์รี่ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นๆอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อได้ เพราะในสตรอเบอรี่นั้นจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยในการลดอาการปวด และลดอาการอักเสบได้ ดังนั้น สำหรับใครที่เล่นกีฬาแล้วรู้สึกมีอาการปวดเมื่อย การเลือกทานสตอเบอรี่เป็นประจำ จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีอย่างแน่นอน

  • ขิง

เป็นสมุนไพรครัวเรือนชนิดหนึ่งที่เรียกได้ว่าหลายๆบ้านนั้นต้องขาดไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่มากคุณประโยชน์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหารได้ดี และที่สำคัญมีส่วนช่วยในการลดอาการอักเสบและช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังยี่ห้อไหนดี

3 ท่าออกกำลังกายลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน

เชื่อว่าสาวๆส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้กำลังมองหาวิธีการ ลดน้ำหนักกันอยู่อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีรูปร่างที่สวยผอมรวมไปถึงมีหน้าท้องที่แบนราบอีกด้วย

ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราจะ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้รวมไปถึงมีหน้าท้องที่สวยงาม ปัจจุบันนี้สามารถทำได้หลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนสูงเพื่อช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แก่ร่างกาย รวมไปถึงการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นการทำงานของร่างกาย หรือกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อให้การลดน้ำหนักของเรานั้นเป็นไปอย่างได้ผล ขอบอกเลยว่าสำหรับสาวๆคนไหนที่กำลังมองหาท่าออกกำลังกายที่มีส่วนช่วยในการลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน

วันนี้เราก็จะมาแนะนำ ท่าออกกำลังกายที่รับรองได้เลยว่าหากสาวๆทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอนั่น นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้ว ยังอาจทำให้สาวๆนั้นมีหน้าท้องที่แบนราบแบบเร่งด่วน สวมใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็สวย

ลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มบุคลิกภาพในการใช้ชีวิตได้อีกด้วย จะมีท่าออกกำลังกายท่าไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • ท่าแพลง

ท่านี้เรียกได้ว่าเป็นท่าออกกำลังกายที่คนส่วนใหญ่นั้นเลือกที่จะทำ เพราะเป็นท่าที่ช่วยลดหน้าท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยท่านี้ จะเป็นท่านอนคว่ำ ตั้งข้อศอกไว้ที่พื้นแล้วเหยียดตัวให้ตรง ขอบอกเลยว่าหากสาวๆทำท่านี้เป็นประจำอย่างน้อยวันละ 1 นาที จะช่วยให้หน้าท้องของเรานั้นแบนราบได้อย่างเร่งด่วน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดไขมันบริเวณต้นแขนต้นขาของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ ท่าออกกำลังกายชนิดนี้ยังเป็นท่าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะคนส่วนใหญ่มองว่าเป็นธาตุที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

  • ท่านั่งงอตัว

ถ้านี่จะเป็นท่าที่เราต้องนั่งเป็นรูปตัววี มือทั้งสองข้างจะต้องแนบชิดลำตัวแล้ววางบริเวณด้านหลังเพียงเล็กน้อย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก     พร้อมกับการยกขาทั้งสองข้างขึ้นข้างหน้าเล็กน้อย ซึ่งท่านี้จะเป็นภาพที่ช่วยให้เราเกร็งหน้าท้อง และหากเราทำในความเร็วที่เหมาะสม จะช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องของเราได้เป็นอย่างดี ขอบอกเลยว่าหากสาวๆอยากมีหน้าท้องที่แบนราบ สวย การทำท่านี้เป็นประจำช่วยได้อย่างแน่นอน

  • ท่านั่งชันเข่า

ท่านี้เป็นท่าง่ายๆที่สาวๆนั้นไม่ควรพลาด เพราะหากอยากมีกล้ามหน้าท้อง หรืออยากมีหน้าท้องที่แบนราบแบบเร่งด่วน การที่เรานั่งชันเข่าแล้วเอนตัวไปด้านหลังพอประมาณ มือทั้งสองข้างประสานกัน บิดตัวไปทางซ้าย และไปทางขวา ซึ่งหากทำท่านี้เป็นประจำจะยิ่งทำให้รูปร่างของเรานั้นดูมีสัดส่วนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นบริเวณหน้าท้องได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

รู้หรือไม่โรคซึมเศร้าสามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง

โรคซึมเศร้าสามารถรักษาได้ โรคซึมเศร้า เป็นอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นให้เราเห็นได้บ่อนมาก ๆ เพราะโรคนี้ถ้าไม่รักษาให้หายอาการก็อาจรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

โดยอาการนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการที่เรามีอารมณ์แปรปรวน มีความคิดที่เปลี่ยนไป หรือมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปนั่นเอง รวมไปถึงการมีปัญหาเกี่ยวกับสุภาพจิตอีกด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอาการหนึ่งที่พบทำให้คนส่วนใหญ่นั้นเกรงกลัวกันเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าจะมีอาการแสดงเพียงเล็กน้อย

แต่รู้หรือไม่ว่าสามารถคร่าชีวิตของคน ๆ หนึ่งไปได้ ปัจจุบันนี้ อาการซึมเศร้าเป็นอาการที่พบเจอได้บ่อย แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถรักษาอาการให้หายได้เอง

โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งยา หรือเข้ารับการรักษา  gclubเครดิตฟรี50    อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะเป็นอาการหนึ่งที่มีความน่ากลัว แต่เราก็สามารถรักษามันให้หายได้ด้วยตนเอง ซึ่งหากไม่มีอาการที่รุนแรงมากนัก ก็ยังสามารถป้องกันได้

ฉะนั้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการรักษาอาการซึมเศร้าด้วยตนเอง ซึ่งก็เป็นวิธีง่าย ๆ จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย 

  • การนั่งสมาธิ

เนื่องจากว่าการนั่งสมาธิบ่อย ๆ จะยิ่งทำให้สมองของเรารู้สึกผ่อนคลาย และทำให้จิตใจของเรานั้นดุสงบลงได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับใครที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า การทำสมาธิเป็นประจำ ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถหายจากโรคซึมเศร้าได้ เพียงแค่นั่งไม่กี่นาที ทำจิตใจให้สงบ ปรับเปลี่ยนความคิด รวมไปถึงปรับสมดุลชีวิต เพียงแค่นี้ก็สามารถบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ 

  • การหากิจกรรมทำ

แน่นอนว่าการที่เราหมั่นหากิจกรรมทำเป็นประจำ จะยิ่งช่วยบิหารสุขภาพจิตของเราให้ผ่อนคลายและปลอดโปร่งได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นกิจกรรมที่เราชื่นชอบ หรือทำแล้วรู้สึกสบายใจ ก็อาจจะช่วยปรับอารมณ์ของเราให้ดีขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยทำให้เรานั้นรู้สึกเครียดได้น้อยลงอีกด้วย ดังนั้น ขอบอกเลยว่าการออกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่เราชื่นชอบ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่จะสามารถช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าของเราให้ลดลงได้ 

  • การคุยกับกลุ่มเพื่อที่ไว้ใจได้

หากคุณกังวลว่าการอยู่กับตนเองนั้นจะยิ่งทำให้อาการนั้นแย่ลง การที่เรามีกลุ่มเพื่อที่สามารถเป็นที่พึ่งพา และไว้ใจได้ จะยิ่งช่วยให้เรานั้นรู้สึกสบายใจได้มากยิ่งขึ้น เพราะการที่มีคนคอยรับฟัง หรือมีคนที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ ก็จะทำให้เรานั้นสามารถรับมือกับอาการ และความเครียดที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น ลองมอหากลุ่มเพื่อสักกลุ่มที่คิดว่าไว้ใจได้ เพื่อเป็นที่พึ่งพาในยาที่ลำบาก ไม่แน่เพื่อกลุ่มนี้อาจช่วยให้คุณนั้นสามารถออกมาจากโรคซึมเศร้านี้ก็ได้

รู้หรือไม่ธัญพืชช่วยลดไขมันในเลือดได้

รู้หรือไม่ว่า การที่เรามีปริมาณไขมันในเลือดสูง หรือมีคอเลสเตอรลในร่างกายที่สูงมากเกินไป อาจส่งผลให้เรามีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของโรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองตีบ รวมไปถึงโรคอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งต้องบอกก่อนว่าโรคนี้ถือเป็นโรคที่มีความอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือการหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อช่วยลดอัตราการสะสมของไขมันในร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าภาวะนี้จะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นให้เราเห็นได้บ่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ปัจจุบันนี้ภาวะไขมันในเลือดก็สามารถรักษาหรือป้องกันได้

ด้วยการเลือกรับประทานอาหารประเภทธัญพืช เพราะปกติแล้วธัญพืชจะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะไขมันในเลือดได้เป็นอย่างดีเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่มีความกังวลเกี่ยวกับการสะสมของไขมัน

ธัญพืชช่วยลดไขมันในเลือดได้ หรือกลัวว่าจะไขมันในเลือดมากเกินไป วันนี้เราก็จะมาแนะนำธัญพืชที่มีประโยชน์  gclubเครดิตฟรี50     ที่สามารถช่วยลดไขมันในเลือดได้ แถมยังดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย จะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

  • วอลนัท

เนื่องจากวอลนัทเป็นหนึ่งในธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งจะอุดมไปด้วยวิตามินอี กรดไขมันชนิดดี รวมไปถึงกรดโฟเลต โดยจะมีส่วนช่วยในการลดระดับไขมันเลวในร่างกาย และช่วยเพิ่มไขมันดีให้แก่ร่างกายได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยลดโรคเส้นเลือดอุดตันได้ และที่สำคัญยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีอีกด้วย รับรองได้เลยว่าเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่กำลังลดน้ำหนักเป็นอย่างมาก 

  • ข้าวโพด

เรียกได้ว่าเป็นธัญพืชที่คนส่วนใหญ่นิยมทานกันเป็นอย่างมาก เพราะข้าวโพดจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่สูงมากแถมยังมีวิตามินบีที่สูงมากๆ ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นการทำงาของระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดีช่วยลดคอเลสเตอรอล และช่วยเพิ่มไขมันดีในร่างกายได้ นอกจากนี้ ข้าวโพดยังมีคาร์โบไฮเดรต และมีโปรตีน ที่เรียกได้ว่าสำคัญ และมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ 

  • เมล็ดฟักทอง

เนื่องจากในเมล็ดฟักทองนั้นจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายในน้ำ อีกทั้งยังมีสารอาหารชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิเช่น โพแทสเซียม แคลเซียม วิตามินเอ แมกนีเซียม และกรดไขมันอิ่มตัว ซึ่งแน่นอนว่าหากเราทานเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยลดไขมันในเลือดได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหัวใจ และหลอดเลือดตีบ