รู้หรือไม่ออกกำลังกายผิดจะยิ่งทำให้เราดูแก่ง่าย

ออกกำลังกายผิดจะยิ่งทำให้เราดูแก่ง่าย ปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายจะได้รับความนิยมมากขนาดไหนก็ตาม หรือจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากแค่ไหนก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่า หากเราออกกำลังกายแบบผิดๆ

นอกจากจะทำให้การออกกำลังกายนั้นไม่ได้ประสิทธิภาพแล้วยังอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับผลกระทบตามมาอีกด้วย เพราะถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมองว่าการออกกำลังกายเป็นประจำนั้น

จะสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ ช่วยทำให้ผิวพรรณของเรา เปล่งปลั่ง แลดูสดใสมากยิ่งขึ้น หรือมีส่วนช่วยในการทำให้เหล่านั้นดูอ่อนกว่าวัยได้ แต่รู้หรือไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วคนส่วนใหญ่มักพี่จะออกกำลังกายแบบผิดๆ

จนทำให้การออกกำลังกายนั้นไม่เป็นผลและไม่มีประสิทธิภาพที่ดีต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายที่ดีและได้มีประสิทธิภาพนั่นคือการออกกำลังกายที่เหมาะสมและถูกต้อง

ฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า การที่เราออกกำลังกายแบบผิดๆนั้น  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน   จะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

1.การเล่นคาร์ดิโอมากเกินไป

ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายในรูปแบบนี้จะได้รับความนิยมและมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากแค่ไหนก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าหากเราเล่นมากเกินไปนั่นก็อาจทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบได้ เพราะการที่เราออกกำลังกายในรูปแบบนี้มากเกินไปจะทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายของเรานั้นทำงานหนักเกินไป ทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และมีการทำลายเซลล์ต่างๆได้ ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่มวลกล้ามเนื้อของเราถูกเผาผลาญไป จะทำให้ผิวพรรณของเรานั้นดูไม่สดใส และดูไม่เเต่งตึงอย่างที่คุณคิด

2.การใช้เครื่องออกกำลังกายมากเกินไป

หลายคนมองว่าการที่เราใช้เครื่องออกกำลังกายจะยิ่งทำให้การออกกำลังกายนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การใช้เครื่องออกกำลังกายบางประเภทนั้นก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายของเราเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องกำลังกายที่ไม่ได้เซฟข้อเข่า ยิ่งถ้าเราใช้เครื่องออกกำลังกายมากเกินไปนั้นนอกจากจะทำให้การออกกำลังกายไม่เป็นผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังอาจส่งผลให้ระบบเผาบ้านของเราพังได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าก็จะยิ่งทำให้ ผิวพรรณของเราดูไม่เปลี่ยนแปลง ดูไม่อิ่มน้ำ และอาจทำให้ผิวของเรานั้นดูเหี่ยวย่นอีกด้วย

3.หักโหมกับการเล่นเวทมากเกินไป

ถึงแม้ว่าการเล่นเวทจะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดีให้แก่ร่างกายได้ แต่รู้หรือไม่ว่าหากเราเล่นมากเกินไปก็อาจทำให้การเล่นเวทนั้นไม่มีประสิทธิภาพต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังเริ่มเล่นใหม่ๆ ซึ่งหากเราไปหักโหมมากเกินไป จะทำให้ร่างกายของเรานั้นดึงพลังงานมาใช้มากเกินไป จนส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆในร่างกายได้นั่นเอง

การวิเคราะห์โรค และการดูแลตนเอง เมื่อป่วยเป็นโรค มือ เท้า ปาก

ป่วยเป็นโรค มือ เท้า ปาก สำหรับ มือ เท้า ปาก หมอจะกระทำวิเคราะห์แยกโรคตามลักษณะอาการ เช่น คนเจ็บที่มีผื่นขึ้นตามฝ่ามือ เท้า บางทีอาจจำเป็นต้องแยกออกมาจากการเป็นโรคผื่นแพ้ประเภทอื่น หรือโรคอีสุกอีใส หรือผื่นจากเชื้อประเภทอื่น ๆ 

สำหรับโรคมือเท้าปาก โดยปกติหมอจะดำเนินการตรวจสอบหรือพิจารณาจากอาการและก็อาการแสดง แต่ว่าถ้าหากคนป่วยมีลักษณะอาการแทรกร้ายแรง หมอบางทีอาจทำส่งไปเพื่อทำการตรวจเสริมเติมเพื่อการันตี ซึ่งการตรวจเพิ่มอีกนี้ไม่จำเป็นที่ต้องทำในคนป่วยทุกราย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหมอ อาทิเช่น

– การส่งไปเพื่อทำการตรวจแบบอย่างตัวอย่างเชื้อจากสารหลั่งแล้วก็/หรืออุจจาระ (ใช้เวลาราว 1-7 วัน ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการตรวจ)

– การตรวจค้นยีนของเชื้อไวรัสด้วยแนวทาง PCR

– การเพาะเชื้อเชื้อไวรัส 

 

การดูแลและรักษาโรคมือ เท้า ปาก

เพราะในขณะนี้โรคมือ เท้า ปาก ยังไม่มีการดูแลรักษาที่เป็นโดยตรง การดูแลและรักษาก็เลยเป็นการรักษาอาการปกติตามแต่ลักษณะของคนป่วย อาทิเช่น เจ็บคอมาก  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน  กินอะไรมิได้ คนเจ็บเหนื่อยจากการได้รับอาหารไม่เพียงพอแล้วก็น้ำ ก็จะให้ป้อนน้ำให้กับลูกแทน หรือป้อนนมรวมทั้งของกินอ่อน ๆ ในรายที่เหนื่อยเกินแบบจะหมดแรง บางทีอาจให้นอนรักษาตัวในสถานพยาบาลแล้วก็ให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด ร่วมกับให้ยาลดไข้แก้ปวด รวมทั้งหยอดยาชาในปาก เพื่อลดลักษณะการเจ็บแผลในปาก ร่วมกับการเฝ้าระวังดูลักษณะของภาวะแทรกซ้อนทางสมองแล้วก็หัวใจ ฯลฯ

 

เนื่องมาจากในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนคุ้มครองปกป้องตัวเองให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสที่ส่งผลให้เกิดโรคมือเท้าปาก สิ่งจำเป็นที่สุดเป็นการดูแลและรักษาสุขลักษณะที่ดี โดยพ่อกับแม่สามารถปกป้องลูกจากโรคมือเท้าปาก รวมทั้งคุ้มครองลูกไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่บางทีอาจร้ายแรงถึงเสียชีวิตได้โดย

– หลบหลีกการให้เด็กคลุกคลีหรือสนิทสนมกับคนป่วย

– รักษาอนามัยส่วนตัว โดยยิ่งไปกว่านั้นคนเลี้ยงดูเด็กตัวเล็ก ๆ ควรจะล้างชำระล้างมือก่อนจับของกินให้เด็กกิน แล้วก็กินอาหารที่สุก สะอาด ปรุงใหม่ ๆ กินน้ำสะอาด

– ไม่ใช้ภาชนะสำหรับในการกินอาหารร่วมกับคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช้อน จาน จานชาม ถ้วยน้ำ ขวดที่มีไว้ใส่นม

– หากต้องทำการเช็ดน้ำมูกหรือน้ำลายให้เด็ก ต้องทำความสะอาดมือ โดยการล้างทำความสะอาดทันที 

– ถ้าเกิดเด็กมีลักษณะอาการคล้าย ๆ จะเป็นโรคมือเท้าปากให้รีบพาเด็กไปตรวจที่สถานพยาบาลทันที และงดไปโรงเรียน

การวิจัยและสำรวจสุขภาพจิตและสวัสดิภาพของผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่สนับสนุนกีฬา

การวิจัยและสำรวจสุขภาพจิต ในปี 2020 สถาบันกีฬาแห่งออสเตรเลีย (AIS) ได้มอบหมายให้สำรวจสุขภาพจิตและสวัสดิภาพของผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่สนับสนุนกีฬาระดับโอลิมปิกของออสเตรเลีย (การตรวจสอบสุขภาพจิตปี 2020) ทีมงานของเราที่องค์กรสุขภาพจิตเยาวชน Orygen และมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นได้ทำการศึกษานี้

ซึ่งแสดงถึงการสำรวจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโค้ชและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี เราสำรวจโค้ช 78 คนและเจ้าหน้าที่สนับสนุน 174 คนจากระบบกีฬาโอลิมปิกชั้นนำของออสเตรเลีย การสำรวจประเมินอัตราของอาการทางสุขภาพจิต ความทุกข์ทางจิตใจ การนอนไม่หลับ และการใช้แอลกอฮอล์

เราพบว่าโค้ชชั้นยอดรายงานอาการสุขภาพจิตในระดับที่ใกล้เคียงกับนักกีฬาชั้นยอด

สัญญาณของความอัปยศด้านสุขภาพจิตก็ชัดเจนเช่นกัน ตัวอย่างเช่น 30% ที่คิดว่าปัญหาสุขภาพจิตจะส่งผลไม่ดีต่อพวกเขาในการเล่นกีฬา นี่แสดงให้เห็นว่าโค้ชอาจรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะแบ่งปันประสบการณ์ด้านสุขภาพจิตของตนเอง

ความปลอดภัยของงานและความรู้สึกทำงานหนักเกินไปดูเหมือนจะเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับโค้ชชั้นยอด เรื่องนี้อาจไม่น่าแปลกใจนัก เพราะเช่นเดียวกับนักกีฬา ความมั่นคงในการทำงานขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ ผลงานที่แย่มักนำไปสู่การเก็งกำไรเกี่ยวกับความมั่นคงในการทำงานของโค้ช และในหลายๆ กรณี อาจทำให้ตกงานได้ก็เรียกได้ว่าเป้นสิ่งที่ค่อนข้างรุนแรง

กีฬาชั้นยอดยังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งมักนำเสนอความท้าทายใหม่ๆ ให้กับพนักงานและนักกีฬา การอุทิศตนที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมดังกล่าวมักต้องการการเสียสละในด้านอื่นๆ ของชีวิต

โค้ชน้อยกว่าครึ่งในการศึกษาของเรารายงานว่าพอใจกับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน พวกเขาอธิบายถึงผลกระทบด้านลบที่เกิดจากการทำงานมากเกินไป ความเครียดจากการทำงาน และการไม่มีเวลาที่มีคุณภาพที่มีต่อคุณภาพชีวิตและความพึงพอใจในชีวิต วิธีส่งเสริมสุขภาพจิตของโค้ช เพื่อลดการตีตรา เราจำเป็นต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมในด้านกีฬา สื่อ และชุมชนทั่วไป

องค์กรกีฬาและสื่อจำเป็นต้องส่งเสริมเสียงของโค้ชที่มีประสบการณ์ความท้าทายด้านสุขภาพจิต สิ่งสำคัญคือต้องมั่นใจว่าโค้ชสามารถเข้าถึงการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตที่เหมาะสมได้ ซึ่งก็มีกาสังเกตสำรวจและมีการทำประเมินอย่างสม่ำเสมอเครือข่ายส่งต่อสุขภาพจิตของ AIS เป็นตัวอย่างที่ดี ผู้ที่สามารถใช้บริการนี้ได้ ได้แก่ นักกีฬาทั้งในอดีตและปัจจุบัน โค้ช เจ้าหน้าที่สนับสนุน และเจ้าหน้าที่ที่ว่าจ้างโดยองค์กรกีฬาแห่งชาติของออสเตรเลีย

แม้ว่ากีฬาชั้นยอดจะมีสภาพแวดล้อมที่มีความต้องการสูง แต่สุขภาพจิตของผู้ฝึกสอนก็ควรได้รับการจัดลำดับความสำคัญก่อน เพราะถ้าหากไม่มีการจัดระเบียบก็จะทำให้ประสิทธิภาพนการฝึกสอนมีประสิทธิภาพที่ลงลดไปนั่นเอง ไม่เพียงส่งผลกระทต่อโค้ช หรือผู้ที่เกี่ยวข้างทางการกีฬาเท่านั้น แต่ยังสงผลกระทบต่อคนรอบข้างหรือนักกีฬาด้วย

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน